แชร์เทคนิคทำสีผมยังไงไม่ให้ผมเสียจนพัง! | Kaosuaylunla Diary

แชร์เทคนิคทำสีผมยังไงไม่ให้ผมเสียจนพัง!

ทำผมสีอะไรดี?
เทรนด์สีผมจากนี้และต่อๆไปเริ่มมีความแปลกมากขึ้น หลายๆคนอยากทำสีผมพาสเทลชมพูฟ้าสายไหมฟรุ้งฟริ้งแต่กลัวสุขภาพเส้นผมจะพัง วันนี้เราเอาทริกที่ทำใช้เองมาแชร์ให้ฟังกันค่ะ เราเองมีประสบการณ์ทำสีผมเกือบๆจะเขียวพาสเทลมาเมื่อปี 2015 ปัจจุบันเคยเติมสีเดิมด้วยตัวเอง เคยเปลี่ยนเป็นสีเทาเงิน แล้วก็ล่าสุดทำสีน้ำเงินเข้มเส้นผมยังนุ่มลื่นเงางามสุขภาพดีอยู่ได้บ้างแม้จะมี Bad Hair Day ในบางครา... เลยคิดว่าจะมาแชร์ทริกเล็กๆให้คน "ผมยาว" เอาไปใช้ เวลาตัดสินใจทำสีผมจะได้ไม่เศร้าเพราะผมพัง มาค่ะ เริ่มจากการเลือกวิธีลงสีผมก่อนเลย

เทคนิคการกัดสีผมไม่ให้ผมเสีย


1. กัดสีผมแบบไม่ลงถึงโคน


สั่งกับช่างทำผมที่ร้านเลยค่ะว่าอยากกัดสีแบบ "บาลายาจ" เพ้นมือไปเลยตอนลงน้ำยากัด ไม่ได้โกรกทั้งหัว เพื่อให้สุขภาพหนังหัวของเราไม่ต้องทนกับเคมี ย้ำบ่อยๆว่า "กัดแบบไม่ถึงโคนค่ะ" สบายใจไปได้ระดับนึงว่าหนังหัวเราจะเวอจิ้น อารมณ์ว่าถ้าผมพังก็แค่ตัดออกแล้วเลี้ยงใหม่ ไม่ต้องถึงขั้นใช้ยารักษาตั้งแต่หัวกบาลยันปลายผม 15 ซม.

2. กัดรอบเดียวพอ เพราะยิ่งกัดหลายรอบผมยิ่งเสีย

สีผมที่กัดออกมาถ้าเดิมยิ่งดำจะยิ่งเหลือง เพราะฉะนั้นการลงสีให้ได้ตรงตามชาร์ท ทางร้านจะกัดจนกว่าจะได้สีอ่อนพอลงสีใหม่ ให้คำนึงถึงพื้นสีเดิมของตัวเองด้วยนะ ใช้วิชาศิลปะสมัยประถมเข้าสู้ ถ้าผมสีเหลืองเจอน้ำยาสีน้ำเงินจะเท่ากับสีเขียว (ตามหลักแม่สี เหลือง+น้ำเงิน=เขียว) กรณีทำเองให้เผื่อใจไว้ด้วยว่ามันอาจจะไม่เป๊ะตามหลอด เนื่องจากประสบการณ์คนธรรมดา ยังไงก็ต่างกับช่างทำผมมืออาชีพที่วันนึงทำหลายสิบหัว แต่ข้อเสียของการไปร้านคือทางร้านจะทำหัวของเราให้เสร็จภายในวันนั้น (4-12ชม. แล้วแต่ความยากง่ายของสีที่เราสั่งทำ) เพราะฉะนั้นอาจจะต้องนั่งกัด-ฟอกหลายรอบ เส้นผมของเราทนอะไรขนาดนั้นไม่ไหวหรอกค่ะ กัดผมรอบเดียวก็มีความพังแล้ว อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ใครเค้าจะถ่ายผมตอนพังมาโปรโมทให้ดู มีแต่คนถ่ายตอนสวยๆกันทั้งนั้นอะ นับประสาอะไรกับการกัดซ้ำๆในวันเดียว เห้อ...

3. กัดผมแล้วต้องมีทรีตเม้นต์เป็นยาสามัญประจำห้องน้ำ

ใช่ค่ะ การทำสีผมแปลกๆยิ่งสระสียิ่งซีด แต่ถ้าไม่ลงทรีตเมนต์บำรุงเลยเนี่ย สีผมสดแต่ผมจะเสียและแห้งกรังมากนะ ต้องเลือกค่ะ! อย่างน้อยๆหมักผมด้วยทรีตเมนต์สูตรสำหรับผมทำสีอาทิตย์ละครั้ง จะช่วยให้สีหลุดน้อยลงกว่าสูตรที่เป็นทรีตเมนต์ธรรมดา หรือหาหัวเชื้อทำสีหยดผสมลงไปเล็กน้อยเพื่อเติมเม็ดสีพร้อมกับบำรุงไปด้วยก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้เหมือนกัน

4. ใช้ออยล์บำรุงผมให้ครบสูตร

หลายๆคนยังไม่รุ้ว่าจะใช้ออยล์บำรุงผมตอนไหนดี แนะนำให้ใช้ตอน "ผมเปียก" ไม่ว่าจะเป็นช่วงสระลงแชมพูแล้ว หรือตอนที่เช็ดผมหมาดๆก่อนไดร์เป่าแห้ง เทคนิคคือให้หมั่นลูบออยล์ลงบนผมที่เปียก (ก่อนลงแชมพู, ก่อนไดร์ผม) แล้วพอครบทุกขั้นตอน ผมจะค่อยๆนุ่มฟูแบบยั่งยืนไม่หลอกดาวแบบบางยี่ห้อที่เป็นออยล์ Leave On ลูบตอนผมแห้ง จะช่วยแค่ตอนที่ใช้ พอหยุดใช้ก็กลับไปแห้งอีก อันนี้ลองเองระยะยาวพบว่าพอหยุดใช้มันไม่กลับไปวิกฤติเหมือนช่วงทำสีใหม่ๆแล้วไม่บำรุงนะ

แนะนำผลิตภัณฑ์ทำสีผมกับร้านทำผมที่ลองเองแล้วเวิร์ค

  • เติมสีผมเองเป็นสีน้ำเงินสดอยู่ทนโคตรๆ ใช้ Zowiie สี Arctic Blue เบอร์ 18

ทั้งนี้ นี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเรา ใช่ว่าทุกคนลองแล้วจะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันนะคะ มันมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่นพื้นฐานความแข็งแรงของเส้นผม สภาพเส้นผม ความหนา ประวัติการทำสีก่อนหน้านี้ ฯลฯ เพื่อนเราบางคนใช้ของยี่ห้อเดียวกับเราแต่คนละสีแล้วออกมาพังเพราะสีพื้นของผม+สีที่เลือกทำ มันไปกันไม่ได้ก็มีมาแล้ว


และเอาจริงๆ การกัดสีผม การยืดหรือการดัด มันคือการ "เปลี่ยนโครงสร้าง" ของเส้นผมเดิมๆด้วย "เคมีภัณฑ์" ปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์ "ออแกนิก" ที่สามารถกัดสีผมให้สว่างได้โดยผมไม่เสีย หรือทำให้ผมตรง/หยิกถาวร โดยไม่ทำร้ายผม ที่เห็นแบบธรรมชาติๆมีเพียงการปกปิดผมขาวด้วยเฮนน่าธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่การทำสีผมแฟชั่นแต่อย่างใด ใครมีใจรักจะตามเทรนด์ก็ต้องเผื่อให้ให้สภาพผมที่ต้องการบำรุงและการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษกันหน่อยนะ บางทีอาจจะพันกันง่ายขึ้น บางคนผมกรอบ บางคนผมเป็นวุ้น หวียาก ไม่เป็นเส้นตรงเรียบลื่นแต่มีความหงิกๆงอๆคล้ายไฟช็อต

(ในรูปคือหัวปัจจุบัน ข้างขวาสีหลุดไวและสภาพดูมีความช็อต มีความพังกว่าข้างซ้าย)
หวังว่าบล็อกนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ พบกันใหม่บล็อกหน้า บ๊ายบาย ^^

Disclaimer: Product mark with * means they are sponsored product which I got it for free but I did not get paid to create the article.

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?