แชร์ประสบการณ์ตรง เริ่มต้นทำบล็อกลงทุนยังไงดี? | Kaosuaylunla Diary

แชร์ประสบการณ์ตรง เริ่มต้นทำบล็อกลงทุนยังไงดี?

บล็อกนี้มาแชร์วิธีลงทุนกับการทำบล็อกมาฝากค่ะ ใครที่กำลังอยากเริ่มต้นทำบล็อก เห็นบล็อกเกอร์มีชีวิตดี๊ดี(หราา) อยากเป็นบ้าง อยากทำบ้าง แต่ไม่มีใครสอน ไม่รุ้จะเริ่มตรงไหน วันนี้เราจะมาเล่า Journey ที่เริ่มจาก 0 มาฝากกันค่ะ


ก่อนอื่น แยกให้ออกก่อนว่า "อยากเป็นบล็อกเกอร์" หรือ "อยากได้ของฟรี"
ถ้าอยากได้ของฟรีแค่หมั่นไปเล่นเกมตามเพจต่างๆติดตามข่าวสารของแบรนด์บ่อยๆ ไปเวิคชอป หมั่นทำบุญ สร้างกุศล ให้โชคช่วยเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะไม่จำเป็นต้องมีบล็อกก็ได้ เว็บ Community อย่างจีบัน Cosmenet เค้าก็มีกิจกรรมให้สมาชิกรับของฟรีไปรีวิวในเว็บกันอยู่บ่อยๆ ใครที่ไม่รู้จะเขียนอะไรก็ลองไปหาไอเดียจากตรงนั้นดูค่ะ แต่ว่าเราเริ่มจากการเขียนแบบ "ไดอารี่" เน้นประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วอยากบอกต่อ ค่อยพัฒนามาเป็น Blogger ที่ได้อัพเดทข่าวสารใหม่ๆในภายหลัง


 แชร์ประสบการณ์ตรง
เริ่มต้นทำบล็อกลงทุนยังไงดี?



ถ้าอยากเป็นบล็อกเกอร์ ก็ต้องหมั่นเขียนบล็อก 
เขียนบ่อยๆ เขียนไปเถอะ เขียนอะไรก็ได้ บล็อกแรกของเราเขียนบน exteen.com และเป็นบล็อกที่เขียนเพราะเราได้รู้จักพี่พิม (เพจป้าพิม) เกิดมาไม่เคยลงทุนเบอร์ใหญ่กับเครื่องสำอางหรือสกินแคร์มาก่อน ออกแนวมีอะไรก็ใช้อันนั้น ไม่ค่อยเสียตังให้ของใหม่ๆเท่าไหร่นัก เพราะงั้นจุดประสงค์ในการทำบล็อกของเราคือเราต้องการ "เรียนรู้" วิธีทำบล็อก จากวันนั้นผ่านไปประมาณ 1 ปี หาเวทีประกวดลงไปเรื่อยๆ ไปหาประสบการณ์ ไปหาคอนเนกชั่น ก็เริ่มมีแบรนด์รู้จัก เริ่มได้ไปอีเว้นในฐานะบล็อกเกอร์กับเค้าบ้าง เราก็ตัดสินใจย้ายออกมาที่ blogspot ซึ่งก็คือการเปิดบล็อกใหม่เลยนั้นแหละ จุดประสงค์หลักเพราะเราเชื่อมั่นในทีม google มากกว่า exteen ค่ะ (blogspot เป็นของกูเกิ้ล)

การเริ่มทำบล็อกตรงนี้ "ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ" เพราะบล็อกส่วนใหญ่เป็น Platform ให้ใช้ได้ฟรี คนที่เสียเงินแพงๆทำเว็บเพราะอยากดูแล Host/Server เอง เป็นความแอดวานซ์ที่เรายังไม่เห็นความจำเป็นค่ะ ใครจะมีก็ได้ แรกๆเราใช้แบบฟรีไปก่อนจนเริ่มมีรายได้เราค่อยขยับมาลงทุนกับการซื้อโดเมน kaosuaylunla.com เฉยๆ ปีนึงประมาณ 2-3 ร้อยกว่าบาทนี่แหละ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ

จำเป็นต้องมีกล้องแพงๆมั๊ย? 
ในช่วงแรกเราใช้กล้องมือถือด้วยซ้ำค่ะ เราเริ่มจาก Samsung Galaxy Mini ด้วยซ้ำ จากนั้นเขยิบมาเป็น iPhone5s เราใช้ไอโฟนนี่แหละถ่ายคลิปลงช่อง Youtube

ช่วงแรกๆ ซื้อขาตั้งมาบุญครองมาอันนึง เซ็ทพื้นบนบันได ไม่ก็ห้องน้ำเป็นสตูดิโอโดยการเอาผ้าห่มอิเกีย+ราวตากผ้า และแขวนไฟคริสมาส ก็ได้ฉากง่ายๆมาอันนึงแล้วค่ะ


โยกย้ายที่ตั้งได้ตามใจชอบ บางวันก็แขวนผ้า ปูพรมเช็ดเท้าขนฟูๆเอามาถ่ายแพคชอท เลือกหลอดไฟสีขาวแล้วเอามาเปลี่ยนกับโคมไฟที่บ้านก็ได้ไฟสตูง่ายๆ DIY ในราคาหลักร้อยพอใช้ได้เหมือนกันนะ


พอทำไปเรื่อยๆ สิ่งต่อมาที่จำเป็น "มาก" คือ External Hard disk เพราะความจำในคอมจะเริ่มเต็ม (เรามี Laptop ยี่ห้อ HP ใช้ชิพ Core i5 มาตั้งแต่ปี 2012) โปรแกรมจะเริ่มช้า คอมจะเริ่มค้าง ไปหาฮาร์ดดิสก์มาถ่ายข้อมูลไว้ก่อนเลย ลูกนึงไม่แพงค่ะพันต้นๆก็มีขาย


แน่นอนว่าหลายๆคนเริ่มหัดแต่งภาพด้วย Photoshop ส่วนงานวิดีโอเรามีพื้นฐาน Premiere Pro อยู่แล้วเลยไม่ได้ติดขัดอะไรนักค่ะ พอเริ่มแต่งภาพนี่แหละจะรู้สึกว่างานเราต้องการความคมชัด ต้องการโหมดมาโครที่สามารถถ่ายเห็นรายละเอียดผิว รายละเอียดสิ่งของ ไม่ฟรุ้งฟริ้งนะ ชอบแบบชัดๆ สีไม่เพี้ยน เราไปซื้อกล้องมือสองต่อจากน้องขวัน (เพจ Khwankong) Canon s100


ตอนนั้นมีงบลงทุนหลักพัน แล้วก็อยู่กับน้องหนอน (Canon) หลายปีมาจนเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ช่วงเดือนกรกฎา อยากได้กล้องที่สามารถ Flip จอมาถ่ายมองเห็นตัวเองได้ อยากได้ภาพวิดีโอชัดๆคลีนๆบ้าง ลองไปลองมาทั้ง Fuji, Sony, Canon มาจบตรงความไวของชัตเตอร์เพราะเราชอบถ่ายรูปลูกแล้วเบลอบ่อย โอลิมปัสชัตเตอร์ไวมากกกก ก็ตัดสินใจสอย Olympus EPL7 มาค่ะ

เมื่ออยากทำงานวิดีโอ เราต้องมี Memory Card ที่ซัพพอร์ตกล้องได้ด้วยไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อเมมเยอะๆนะ เมมการ์ดจะมี Class ของเค้า ซึ่ง Class สูงๆก็จะมีความสามารถสูงตามไปด้วย อัดลื่น ไม่ตัดบ่อย บางทีการที่กล้องถ่ายแล้วตัดไวเป็นที่การ์ดความสามารถไม่ถึงก็ใช่นะ กล้อง Mirrorless ควรอัดยาวๆได้อย่างน้อยสัก 12 นาทีขึ้นไปถ้าการ์ดดีพอ เอามากดเล่นไม่กระตุก เสียงกับภาพเล่นตรงกันตั้งแต่ในกล้องงี้

วิธีดูการ์ดง่ายๆคือค่า read speed/write speed ต้องไม่ห่างกันมาก และยิ่งสูงยิ่งดีค่ะ เราสอยตัวในภาพมาเลย Read Speed การอ่านการ์ดอยู่ที่ 95MB ต่อ วินาที การบันทึก(Write Speed) ความเร็วอยู่ที่ 90MB ต่อวินาที ราคาไม่แพงมากค่ะ 8-9 ร้อยปลายๆ

ต่อมาเราลงทุนกับเซทสตูที่ Look Camera (สั่งออนไลน์)

ซึ่งเป็นเซทที่ได้ Soft Box แบบ 2in1 ซึ่งสามารถเอามาใช้เป็นเต๊นท์ถ่ายภาพสินค้าแบบ Packshot คลีนๆได้ด้วย
ตัวอย่าง: ภาพจากเต๊นท์

ความพลาดของเราคือไปซื้อฉากขาว โดยลืมว่าผนังบ้านก็ขาวอยู่แล้ว... ถ่ายแบบไม่ขึงผ้าก็ได้ไง ไม่ต้องจัดเต็มไฟ 4 ดวงก็ด้ายยยย (ฮาาา)
ตัวอย่างงานฮาวทู Everyday look in 10 minutes
*จัดไฟแค่ 2 ดวง

ไม่เป็นไร เก็บไว้เผื่อไปหาผ้าเลื่อมๆมลังเมลืองมาเป็นฉากใหม่ในภายหลัง ผนังบ้านก็พอ ทุกวันนี้แทบไม่มีเวลาทำคลิปเลยค่ะเพราะกลางวันเป็นพนักงานออฟฟิศ กลางคืนที่บ้านก็มีลูกเล็ก พอเอาลูกเข้านอนก็เหนื่อยละ เลยไม่ค่อยได้ลุกมาตั้งกล้องถ่ายอะไรเท่าไหร่

Theme บนบล็อกปัจจุบันเกิดจากการที่เราเผลอทำบล็อกพัง เลยหงุดหงิดค่ะ กู้ไม่ได้เพราะลืม Backup (โง่เอง สวัสดี) เสิชหาตีมสวยๆแล้วก็ไปถูกใจตีม Fusion ของ Templates Yard ซื้อมาใช้ในราคา 10$ (จ่ายครั้งเดียว)

จะเห็นได้ว่าเราแทบไม่พูดถึงการลงทุนเรื่องชุดออกงานอีเว้นเท่าไหร่เลย นั่นเพราะแฟชั่นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่จำเป็นจะต้องเอามาเป็นข้ออ้างว่าออกงานอีเว้นต้องใช้เงินซื้อชุดตามตีมนะ เอาจริงๆขุดเสื้อผ้าในตู้มา Mix and Match ให้เป็นก็ไปได้ทุกงานแล้วค่ะ เราเป็นคนซื้อเสื้อผ้าเพื่อสนองนี้ดตัวเอง ไม่เคยใช้อีเว้นมาเป็นข้ออ้างเลย เพราะงานอีเว้นส่วนมาก เป็นงานที่เค้าเชิญให้ไปร่วมงาน รับข่าวสาร ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆให้เรา เว้นแต่ว่าเราจะเป็นแขกที่ "จำเป็น" ต้องล็อกคิว ต้องมาให้ได้ ตรงนี้บางแบรนด์เค้าก็จะมีค่ารถมาให้แล้วแต่ตกลงค่ะ ถ้ากรณีนี้จะซื้อชุดออกงานใหม่เราก็ว่าไม่เสียหายอะไรนะ แต่จะบอกว่ามันไม่จำเป็นต้องเอามาเป็นข้ออ้างในการ "เรียกค่าตัว" ทุกครั้งที่มีหมายเชิญจากแบรนด์ แค่แต่งตัวให้เกียรติงาน เอาที่ใส่สบายก็พอนะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ


สรุปสั้นๆ
อยากเป็นบล็อกเกอร์ต้องมีอะไรบ้าง?


1. มีบล็อก:
ไม่จำเป็นต้องลงทุน มี free platform ให้ใช้ โดเมนจะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ายังไม่มีงบก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ
2. มีความขยัน:
ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อของใหม่ๆตามกระแส การเขียนบล็อกจากเรื่องรอบตัวก็ช่วยเพิ่มจำนวนคนอ่านได้เหมือนกันนะแค่ต้องขยันเขียนไปเรื่อยๆไม่หยุดเท่านั้นเอง

เออ สรุปแล้วมีแค่นี้ก็เป็นบล็อกเกอร์ได้แล้ว ที่เหลือคือ Option เสริมล้วนๆเลยที่จะทำให้งานดูดีขึ้น เทคนิกต่างๆในการถ่ายภาพเราดูงานคนอื่นๆเยอะแล้วก็ลงมือทำเองบ่อยๆ ผลงานมันก็จะมีการพัฒนาขึ้นเองนะ อย่างอันนี้ภาพแรกสุดของบล็อกแรกที่เราเคยทำ เป็นการเห่อของแจกจากพี่พิมใช้กล้องซัมซุง

นอกจากกล้องมือถือ "กล้อง built-in บนแลปทอป" ก็ใช้ทำรีวิวได้นะ แม้จะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ นี่ลองทีเดียวเลิก (ฮาา)

ต่อมาเป็นกล้อง iPhone5s เริ่มมีฉากเป็นผ้าห่มและไฟคริสมาสสำเพ็งหลักร้อย

แล้วก็เริ่มจับกล้อง ตัวแรกคือแคนนอน s100

สมัยนั้นฟลิบจอเซลฟี่ธรรมดาไม่ได้ด้วยนะต้องตั้งกระจกแล้วดูเงาสะท้อนเอา 5555

ล่าสุดตอนนี้ใช้เป็นกล้อง Olympus EPL7



ไม่มีอะไรการันตีว่าการลงทุนจะทำให้แบรนด์เห็น
แต่ความขยันจะทำให้เรามีคนอ่านเพิ่มขึ้นแน่นอน 
ตรงนี้สำคัญกว่าการได้รับสปอนเซอร์จากแบรนด์อีกนะจะบอกให้

ปัจจุบันเรามีออพชั่นเสริมงอกมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นพรอพเล็กๆอย่างกระดาษสี ลูกปัด หินคริสตัล หรืออุปกรณ์ใหญ่ๆส่วนมากจะเป็นของที่เอาไว้ใช้กับกล้องมากกว่า เช่น กระเป๋า, ขาตั้งกล้อง, อุปกรณ์เสริมให้ EPL7 สามารถฟลิบลงมาเซลฟี่เวลาติดขาตั้ง, เลนส์ ฯลฯ ไว้ถ้ามีโอกาสจะทำ Entry รีวิวกล้องแยกต่างหากให้อ่านกันนะคะ

หวังว่าบล็อกนี้มีคำตอบให้กับคำถามของหลายๆคนบ้างไม่มากก็น้อย ถ้ามีตรงไหนสงสัยคอมเม้นทิ้งไว้ใต้บล็อกนี้ได้เลยนะคะ ไว้เรามาตอบให้ เพื่อนๆคนอื่นที่หลงมาอ่านจะได้เห็นคำถาม+คำตอบไปด้วยเลย

ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ วันนี้ไปก่อน บ๊ายบายค่า ^^

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ หรือเลือกตามหัวข้อ:

1. วิธีซื้อโดเมนเป็นชื่อเว็บของตัวเอง
2. วิธีเปลี่ยนตีมหรือ Backup ตีม
3. วิธีติด Banner Ads -coming soon-
4. ความรู้เรื่องลิขสิทธิ์ภาพ/บทความ
5. ความรู้เรื่องบทความที่มีผู้สนับสนุน/บทความโฆษณา (Sponsored Post/Advertorial)
6. การทำเอกสารใบแจ้งราคา/แจ้งหนี้/ใบเสร็จ (Quotation/Invoice/Receipt) -coming soon-
7. การจ้างบล็อกเกอร์รีวิว
8. วิธีการเสนอราคาสำหรับบล็อกเกอร์ (Profile/Rate Card) -coming soon-
9. Guide สำหรับบล็อกเกอร์ ในการไปอีเว้นท์ในฐานะสื่อ
10. แชร์วิธีจัดไฟเบื้องต้นสำหรับงานถ่ายภาพนิ่ง/วิดีโอ -coming soon-
11. รีวิวกล้องที่ใช้ปัจจุบัน Olympus EPL7
12. ก่อนเข้าวงการ จงรู้ทันดราม่าบิวตี้บล็อกเกอร์
13. รวมแหล่งฝึกฝีมือบล็อกเกอร์มือใหม่ -coming soon-
14. ต้องเป็น Influencers แบบไหนถึงจะมีคนจ้าง? -coming soon-
15. ความสำคัญของการสื่อสารและเทคนิคที่ควรรู้ -coming soon-

2 ความคิดเห็น:

  1. ดีงามมากกกกกก มีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด รอติดตามไปเรื่อยๆ น๊า

    ตอบลบ
  2. เริ่ดมากเลยได้ความรู้เยอะมาก

    ตอบลบ

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?