ความรู้สึกแรกกับไฟนอลแฟนตาซี 15 - Final Fantasy XV First Impression | Kaosuaylunla Diary

ความรู้สึกแรกกับไฟนอลแฟนตาซี 15 - Final Fantasy XV First Impression

สวัสดีค่ะทุกคน ซอรี่ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ผลิตงานรีวิวมาให้อ่านกันบนบล็อกสักเท่าไหร่ สาเหตุนึงคือเราเริ่มโฟกัสงานออฟฟิศ ลดงานบิวตี้ลง แล้วก็หันมาเป็นเด็กติดเกมในวัย 26 ค่ะ (ฮาา) แต่ถ้าติดตามแฟนเพจก็จะเห็นโพสอัพเดทอยู่เรื่อยๆเพราะงั้นใครที่คิดถึงเราก็ตามไปตามกันในโซเชียลได้นะ

วันนี้เรามาเล่าสู่กันฟังกับประสบการณ์แรกของเราหลัง "ร้าง" วงการเกมไปนานตั้งแต่สมัย Play Station 2 ก็ไม่เคยได้จับจอยเกมอีกเลย (เป็นสิบปีได้) ที่เรากลับมาเล่นเกมเป็นเพราะไฟนอลแฟนตาซีค่ะ ซีรีส์ที่รักมากแต่เล่นไม่เคยจบ (อ้าว 555) เราเพิ่งมาตามเล่นจนจบเอาตอนโตแล้วสำหรับภาคที่ Port มาลงมือถือ (3,4,9 อะไรงี้) และพอ Final Fantasy XV มาลง Play Station 4 เราเลยเอาเงินสดไปวางเพื่อถอยเครื่องมาเลยค่ะ เราต้องได้เล่น เราจะไม่ทนดู Walkthrough เราจะต้องสัมผัสประสบการณ์ในเกมนี้ด้วยตัวเราเอง (แผ่พลังความแฟนเกิร์ล...)

อันดับแรก
พูดก่อนเลยว่าเราตกใจกับ "ปุ่ม" มากๆ คือมึงจะเยอะไปไหนวะครับ ปุ่มเยอะไม่พอ การกดแต่ละวาระ แต่ละโหมด ก็ให้ผลกันคนละแบบ เราเคยเป็นคนเล่น jRPG แบบดั้งเดิมมาตลอด ไม่เคยเล่นเกมประเภท Hack and Slash มาก่อน บอกเลยว่าใช้เวลาปรับตัวนานอยู่เหมือนกันค่ะ


อันดับสองพูดเลยว่ามุมกล้องเนี่ย เวียนหัวใช้ได้ถ้ากดไม่เป็น
คือถ้าเราคอนโทรลการหมุนอนาล็อกได้ดี เราจะได้ฉากประหนึ่งดูภาพยนตร์สมูทๆ แต่ถ้าเรากดไม่เป็น มันจะมีความเหวี่ยงเกิดขึ้น เหมือนเหวี่ยงกล้องไปมาอะ คนดูเป็นไงละ เวียนหัวสิครับ ยิ่งตอนแบทเทิ่ลในที่ๆมีต้นไม้ใบหญ้าเยอะๆนะ มึนชิบหาย มุมนี้ก็หญ้าบัง มุมนี้ก็หินบัง ละปุ่มล็อกศัตรูเวลาสู้ก็ทำงานดี๊ดี Warp Srtike ทีก็ไปเลย ตัวละครไปแล้วววว แต่มุมกล้องไม่เปลี่ยนตามไง บางทีก็งงว่าชั้นนั่งมองก้อนหินทำไม อ๋อนู่น เจ้าชายกูสู้อยู่อีกฝั่งของก้อนหิน อีบ้า ทำไมไม่เปลี่ยนมุมกล้องงง (ด่าตัวเอง 555)

Warp Strike สนุกมากเลยอะ คือเป็นการเขวี้ยงอาวุธไปละตัวเองก็วาร์ปไปหาอาวุธแล้วฟัน คือเพลินมาก ชอบๆ แต่ก็แดกค่า MP ชิบหายวายป่วง บิ้วตัวละครไปก่อนนะคะ ให้มี MP Regenerate ไวๆแล้วจะวาร์ปสนุกมาก หรรษาและบันเทิงมากพอชิน


การเดินทางพูดเลยว่าเดินเท้าเวลาออกโลกกว้างเนียเพลียแคมมาก เดินจนเหนื่อย การชี่ไก่(?) Chocobo ดูจะสบายกว่า สบายสุดคือการขี่รถ แต่มันสนุกดีที่มีบทสนทนาของหนุ่มๆขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บางทีก็พูดถึงดินฟ้าอากาศ พูดถึงเควส บางทีก็กัดกันเอง บางทีก็แอบพูดถึงสาวที่ชอบไรเงี้ย มีความคิ้วท์ เหมือนนั่งดูซีรีส์ญี่ปุ่น (ฮา) มุ้งมิ้งอิเคเมนมากค่ะ เลิ้บ


เนื้อเรื่องกับตัวละครต่างๆมีมิติเยอะอยู่เหมือนกัน เยอะจนเรารู้สึกว่าความเด่นของเจ้าชายแม่งหายไปเลย หายไปแบบ เออช่างหัวเจ้าชายเถอะ Side Story น่าติดตามกว่าเยอะ กลายเป็นว่าเราไม่ค่อยเอาใจช่วยเจ้าชายเท่าไหร่ มีความผูกพันกับเพื่อนๆของเจ้าชายมากกว่า (อาจเป็นเพราะเจ้าชายมันไม่ค่อยพูดอะไรอะนะ...) สกิลการถ่ายรูปของ Prompto ก็เป็นอะไรที่เหี้ยดี มีความสุดแบบบางทีก็ดี๊ดี บางทีก็แบบมึงถ่ายเหี้ยไรครับอีพร้อมมมมม!!! (ขำ 5555)


การเซลฟี่ได้ทุกที่ทุกเวลาเนี่ยตลกมาก บางทีก็ลั่นก๊ากเพราะมันแรนด้อมรีแอคชั่นหน้าแต่ละคนออกมา บางคนก็ตากำลังจะปิด บางคนก็หน้าเหวอไรงี้ โอ๊ย


มุมเสยมันก็ถ่าย

กับสาวๆก็ไม่เคยพลาด แหม่...


ที่ชอบมากคือเวลาเราเดินทางไปตามจุดสำคัญต่างๆใน EOS (อี-ออส) มันจะมีออพชั่นให้เลือกว่าเราอยากถ่ายรูปกับ Landmark ตรงนั้นมั๊ย ซึ่งจะออกมาเป็นภาพหมู่กับฉากสวยๆ ให้เราเก็บกันเพลินๆ

แต่บางทีมันก็ยืนบังกันเอง โอย ขำไหล่สั่น 5555+

ต่อมาคือสกิลการทำกับข้าวของ Ignis เป็นอะไรที่จรรโลงกระเพาะมากค่ะ ไม่เคยเล่นเกม RPG แล้วเจริญอาหารเท่าเกมนี้มาก่อนเลยในชีวิต ฮือ...



ยิ่งเล่นไปเมนูก็จะเยอะขึ้นเรื่อยๆ อันนี้จะเห็นเฉพาะเวลาไปตั้งแคมป์กลางแจ้งกันนะคะ ถ้าเข้าพักตามโรงแรมหรือรถบ้านจะไม่มีฉากทำอาหารโผล่ขึ้นมาได้เป็นค่าประสบการณ์คูณหลายเท่าตามราคาที่พัก

สกิล Gladio ไม่มีไรมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเดินทาง และเจ้าชายเนี่ย สกิวนางคือ... ตกปลา!!

แรกๆด่าเกมหนักมากค่ะว่าทำมาทำไมเนี่ย ยากชิบหาย กว่าจะตกปลาได้แต่ละตัวทำไมมันยาก สักพักก็คิดขึ้นได้ อ๋อ เราโง่เอง... ปลาแต่ละที่ต้องใช้เหยื่อแต่ละแบบ ถ้าเราใช้เหยื่อผิด เหวี่ยงเบ็ดให้ตายก็ไม่มีปลาแดกเบ็ดค่ะคุณ ฮือ...

ปล.เจ้าชายด้านหลังแม่งหล่อจุง...


ภาพตอนกลางคืนบางทีก็ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เอื้ออออออออออออออออออออออ

การเดินเล่น การทำเควสในเมืองสนุกมาก แต่การเก็บของเนี่ย เริ่มลำบาก เพราะเมื่อก่อนเวลาจะเก็บไอเท็มอะไรมันจะเห็นเป็นรูปหีบสมบัติ แต่พอมา Open World มันมาเป็นจุดเรืองแสงเล็กๆบนพื้น ที่ต้องเดินไปในระยะมันถึงจะมีไอคอนขึ้นมาให้เราเดินไปเก็บ แล้วแผนที่มันก็กว้างใหญ่ชิบหาย คือถ้าไม่ไปคุยกับร้านอาหารเพื่อให้ระบุพิกัดบนแผนที่ให้เราเนี่ย แทบจะหากันไม่เจอเลยว่าตรงนั้นมีอะไรอยู่ไหนบ้าง ขอให้หลงวนไปค่ะ สนุกกกกกกก


สุดท้ายที่ผิดหวังคือการใช้คาถา Summon เหนื่อยมาก เพราะแต่ละตัวเงื่อนไขไม่เหมือนกัน อารมณ์แบบเฟอร์บี้ พวกเทพก็ Has a Mind of it's own... เป๊ะ เหมือนอีเฟอร์บี้เป๊ะ... คือถ้ากูอยากมาช่วยเดี๋ยวมีปุ่มเรียกโผล่มาเอง ละถ้ามึงไม่กด... กูก็ไม่ออกมาค่ะ แอ่แฮ่!! #แบบนี้ก็ได้เหรอ

โดยรวมๆจากการเล่นมา 8 Chapter พบว่า 3-4 Chapter แรกเป็นการเล่นที่ให้เราค่อยๆศึกษาการขยับ การสู้ การทำเควส มีภารกิจนอกเรื่องให้ไปฝึกมือเยอะพอควร พยายามเลี่ยงเวลากลางคืนอย่าเพ่นพ่านในป่านานๆ มันจะมี Iron Giant กับมอนสเตอร์ป่วงๆโผล่มารุมเรา ช่วงแรกทุกคนจะให้เราวิ่งหนี แต่พอเลเวลสูงๆก็จะสู้กับมันได้ค่ะ พีคคือพอชนะ นึกว่าจะสงบ เปล่าจ้า เกิดใหม่ด้วย!!! เหมือนมีมอนสเตอร์โผล่มาไล่ให้กลับบ้านไปนอนอะเธอ

พอ 5-8 จะเริ่มไปไวขึ้นละ เจอตัวละครหลักๆ เข้าเนื้อเรื่องหลักๆเยอะขึ้น เดี๋ยวถ้าอนาคตเล่นจบจะมารีวิวกันอีกที อันนี้มาเม้ามอยส่วนตัวว่าประทับใจมาก คือมี 10 ก็ให้ 10 อะ เราชอบทุกอย่างเลย ภาพสวย คัทซีนที่เป็นหนังไม่ต่างกับเกมเพลย์เลย มีอะไรให้ทำเยอะดี ไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญเกมมันทำระบบเชื่อมกับจอยเกมได้ดีมาก ทุกครั้งที่รถขับลงถนนลูกรังจอยจะสั่นเหมือนอารมณ์ขับรถบนทางไม่เรียบอะ ได้ฟีลเหมือนดูหนัง 4Dmax ที่รถชนก็สั่น สู้กับมอนสเตอร์ก็สั่น ฟันก็สั่น ละมีจังหวะแบบเร็ว ช้า สั่นแรง สั่นเบา คือดีมากยิ่งเล่นยิ่งสนุก สำหรับคนที่ร้างวงการเกมไปนานมาเจอเกมนี้ เราว่าเราคงไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตปกติอีกสักพักใหญ่ๆเลยค่ะ

คลิกที่นี่ เพื่ออ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวกับ Final Fantasy ที่บล็อก Kaosuaylunla.com

วันนี้เม้าเพลินซะยาวเลย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้า
ฝากแชร์เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะคะ
ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า
บ๊ายบาย ^^

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?