เคล็ดลับในการเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูกสะพายไปโรงเรียนเป็นอีกเรื่องนึงที่อยากหยิบมาแชร์กันค่ะ เพราะทุกวันนี้เด็กๆมักเลือกกระเป๋าจากความสวยงามเป็นหลัก แต่ไม่ได้ดูถึงปัจจัยด้าน "ความปลอดภัย" ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการซัพพอร์ตสรีระที่เหมาะสมของเด็กๆในแต่ละวัย หรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสม ทุกคนน่าจะเคยเห็นภาพเด็กที่สะพายกระเป๋าตุงๆเพราะหนังสือหนักๆกันใช่ไหมคะ? ถ้าเป็นลูกของเราล่ะ? จะเลือกกระเป๋าแบบไหนที่ช่วยเซฟสุขภาพลูกแถมยังเหมาะสมกับบริบทปัจจุบันได้ด้วย วันนี้จะมารีวิวเป้เพื่อสุขภาพพร้อมแชร์เคล็ดลับไปพร้อมๆกันค่ะ ตามมาอ่านกันได้เลย
ทำไมถึงควรเลือกกระเป๋าเป้ให้เด็กๆ?
หลายโรงเรียนไม่อนุญาตให้เด็กๆเก็บหนังสือไว้ใต้โต๊ะ ใน 1 วันเด็กไทยเราต้องเรียนมากกว่า 11 คาบเลยทีเดียว การแบกหนังสือเรียนในแต่ละวันจึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากเป็นไปได้ การเลือกกระเป๋าเป้นั้นจะช่วยแบ่งน้ำหนักที่ร่างกายจะต้องแบกรับได้อย่างสมดุลมากกว่าการใช้กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าถือที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก
เมื่อไม่นานมานี้เราได้ลองเปลี่ยนเป้เดิมของลูกเป็นของแบรนด์ Bangkok Backpackum อ่านว่า บางกอก แบ็คแพ็คกั้ม (คำมาจาก Backpack ที่แปลว่าเป้สะพายหลัง + Umbrella ที่แปลว่าร่ม) ซึ่งเป็นเป้ที่มีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพของลูกอย่างแท้จริง แถมเหมาะกับบริบทเมืองไทยในช่วงหน้าฝนนี้เอามากๆ มันต่างจากเป้ธรรมดายังไงวันนี้เอารีวิวมาฝากกันค่ะ
รีวิวเป้เพื่อสุขภาพลูก Bangkok Backpackum
ในเซทกระเป๋า 1 ชุดประกอบไปด้วย
- กระเป๋าเป้พร้อมล้อลาก 1 ใบ
- หน้ากากอนามัยกันฝุ่น PM 2.5 และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโคควิด
- Badge เข็มกลัด ซีรีส์ Born to be จำนวน 2 ชิ้น (ติดอยู่หน้ากระเป๋า)
- ปากกาเมจิกเขียนความฝัน (ไว้เขียนตกแต่ง Badge บนกระเป๋า)
- ร่มสีเหลือง 1 คันด้านในมีเคลือบกัน UV ด้วย
ทั้งหมดนี้วางจำหน่ายในราคา 1,800 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมในการสั่งซื้อ
Website : https://rayforgood.com/
facebook : https://business.facebook.com/raybrandandproduct
LINE ID : @bml0849q
Lazada / Shopee
ในเว็บของแบรนด์มีให้ข้อมูลด้วยนะว่าเค้าจะแบ่งผลกำไร 10% ในทุกผลิตภัณฑ์ ให้กับโครงการเพื่อสังคมที่ดีและน่าสนใจในประเทศไทย คือซื้อของอุดหนุนคนไทยแล้วได้คืนกำไรให้สังคมอีกด้วย
เป้ของ Bangkok Backpackum คือนวัตกรรมสินค้าของบริษัท rayforgood ที่คิดขึ้นโดยคนไทย 100% แบบยังไม่เคยเห็นที่ไหนทำมาก่อน เป็นเป้ที่สามารถใส่ประกอบร่มได้ในตัวไม่จำเป็นต้องใช้มือถือร่ม
สามารถหยิบขึ้นสะพายหลังแล้วช่วยบังได้ทั้งแดดและฝน ลดความเสี่ยงไม่ให้เด็กๆป่วยไข้ แถมสะพายได้ยาวแบบไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บหลัง ดีต่อสุขภาพเพราะมีการเสริมซัพพอร์ตบุเพิ่มด้านหลังและบริเวณสายสะพายให้หนาและแข็งแรงกว่าเป้ทั่วไป วัสดุกันน้ำได้ไม่ต้องกลัวว่าฝนจะสาดแล้วทำให้ข้าวของข้างในเสียหาย ตัวร่มสามารถถอดเข้าออกได้ จะถือธรรมดาหรือเลือกประกอบกับกระเป๋าก็ใช้งานได้ตามความต้องการ เด็กๆถ้าไม่อยากสะพายกระเป๋าจะถือแบบล้อลากแล้วกางร่มก็ได้เช่นกัน
ทดลองใช้เป้ร่มอันนี้ข้อดีที่รู้สึกได้เลยคือมันจุของได้เยอะมากกกกกก มีทั้งหมด 2 ช่องหลัก โดยช่องใหญ่ข้างในสามารถแบ่งของได้อย่างเป็นสัดส่วน
มีซองด้านข้างๆที่ใส่กระติกน้ำหรือจะเสียบร่มไว้ก็สามารถหยิบใช้งานได้สะดวก สายสะพายบุมาหนาใช้ได้ สัมผัสได้ว่าไม่ทำให้ไหล่กับหลังของลูกเป็นรอยแน่นอน
อีกอย่างคือมันใช้สะพายเพื่อป้องกันตัวเองในบริบทปัจจุบัน กับการ Social Distancing = รักษาระยะห่างจากคนรอบข้างได้แค่หยิบมาสะพาย เพราะตัวร่มที่กางออกนั้นนอกจากจะกันแดดกันฝนได้ครอบคลุมแล้ว ยังจะเป็นตัวช่วยรักษาระยะห่างไม่ให้คนเดินเข้ามาใกล้ตัวผู้ใช้งานมากจนเกินไป เป็นประโยชน์ใช้สอยอีกรูปแบบหนึ่งที่จะปกป้องสุขภาพของลูกๆได้มากขึ้นด้วย
จริงๆส่วนตัวคุณแม่มองว่าอายุที่เหมาะกับเป้นี้คือ 8 ขวบ +
เพราะการใช้งานนั้นเด็กๆจะต้องสามารถรู้จักการประกอบร่วมพับเข้าออกได้ด้วยตัวเองก่อน แต่สำหรับบ้านเราที่ลูกกำลังเข้าวัยประถม การลงทุนกับกระเป๋าอยากให้ได้ใช้ยาวๆ ถ้าเราเลือกวัสดุดีๆจะไม่ต้องเปลี่ยนกระเป๋าบ่อยๆ พิจารณาแล้วว่าในราคานี้เราจะได้ใช้ยาวๆ 3-6 ปีแน่นอน (เปลี่ยนอีกทีตอนขึ้นมัธยม หรือเผลอๆอาจจะยังไม่พังเลยก็เป็นได้) นอกเหนือจากการสะพายไปโรงเรียนจะเอาไว้แบกใส่ของไปทริปครอบครัวก็เหมาะ เพราะจุของได้เยอะแถมฟังก์ชั่นเหมาะกับการให้ลูกแพคของเอาไปเที่ยวได้ด้วย หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ข้อมูลกับคนที่กำลังหาข้อมูลเลือกซื้อกระเป๋าให้เด็กๆได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ วันนี้ลาไปก่อน บ๊ายบายค่า
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?