BIOTHERM Life Plankton™ Essence
ไบโอเธิร์ม Life Plankton™ Essence เอสเซนส์จากจุลินทรีย์ของแพลงตอนที่ถูกค้นพบครั้งแรก ณ บ่อน้ำพุร้อนกลางเทือกเขาพีเรเน่ส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดที่ได้รับขนานนามว่า "บ่อน้ำพุแห่งความเยาว์วัย" The Fountain of Youth ซึ่งเซลล์จุลินทรีย์ของไลฟ์แพลงตอนนี้มีความคล้ายคลึงกับเซลล์มนุษย์ถึง 80% จึงช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกได้อย่างดี และยังมีสารอาหารบำรุงความอ่อนเยาว์ของผิวมากถึง 35 ชนิด เพื่อการฟื้นบำรุงผิวที่เหนือกว่า สัมผัสถึงผิวอ่อนเยาว์ลงร่วม 3 ปีใน 8 วัน ให้คุณเห็นและรู้สึกได้ว่าผิวคุณดีขึ้นอย่างชัดเจน ราวกับการเผยผิวใหม่!Life Plankton™ Essence สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับใช้เป็น “ขั้นตอนแรกสุด” ในกิจวัตรความงามทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจวัตรการบำรุงผิวซึ่งเน้นไปที่การเสริมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูความกระจ่างใส ชะลอความร่วงโรย หรือจัดการปัญหาผิวอื่นใดก็ตาม ด้วยการนำ Life Plankton™ 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดเท่าที่แบรนด์เคยใช้มา ผสานลงใน Life Plankton™ Essence เอสเซนส์ทรงประสิทธิภาพสูตรใหม่ เป็นครั้งแรก เพื่อฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง
Life Plankton Essence 200 ml. ราคา 3,200 บาท
สั่งซื้ออนไลน์ได้ที่เว็บ Central Online คลิก
แพคเกจจิ้งสวยงาม ขวดเป็นแก้ว หนักพอควร เปิดใช้ครั้งแรกมีฟอยซีลมาด้วยเพื่อให้ชัวร์ว่าเป็นคนแรกที่เปิดใช้นะจ๊ะ ผลิตภัณฑ์ Made in France เปิดแล้วต้องใช้ให้หมดภายใน 12 เดือน ส่วนผสมทั้งหมดส่องข้างกล่องไม่เจออะไรที่เป็นอันตรายนะ แต่ใครเซ้นสิทีฟกับน้ำหอมอาจจะต้องข้ามไป เค้ามีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบสุดท้ายค่ะ (ใส่มานิดเดียว)
แบรนด์เคลมว่าผลหลังการใช้:
ผิวได้รับการปลอบประโลมและนุ่มนวลขึ้นทันที หลังใช้ต่อเนื่องแปดวัน ผิวเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวเปล่งปลั่ง สม่ำเสมอ และเรียบเนียนขึ้น ชุ่มชื้น ยืดหยุ่นกว่าที่เคย ริ้วรอยลดเลือนลง
วิธีใช้ที่ทางแบรนด์แนะนำ:
หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า เขย่าขวดเบาๆให้ตะกอนผสมเข้ากันก่อน จากนั้นลูบไล้ผลิตภัณฑ์ทั่วใบหน้าและลำคอและตบเบาๆ ดีดผิวเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วอย่างทั่วถึง จากนั้น เหยาะผลิตภัณฑ์ 2 หยดบนปลายนิ้วแล้วนวดวนเป็นเลข 8 เพื่อเป็นการบำรุงเฉพาะจุดที่ใส่ใจเป็นพิเศษ ปิดท้ายด้วยการนวดกระตุ้นผิวสดใสเป็นแนวคลื่น โดยเริ่มนวดจากด้านในสู่ด้านนอกและจากหน้าผากถึงลำคอ
หลายๆคนสงสัยว่า น้ำตบต้องใช้ยังไง? ใช้ขั้นตอนไหน?
จริงๆหลักการลงสกินแคร์เบื้องต้นเราเอาตัวที่ "เนื้อเบา" และ "ซึมง่าย" ลงก่อนเสมอ ตัวไหนเนื้อหนาๆ หนักๆ จะลงเป็นขั้นตอนสุดท้ายจะได้ไม่ไปบล็อกการบำรุงในขั้นอื่นๆ ตัว "น้ำตบ" ส่วนมากเนื้อเป็นน้ำแบบใสๆ ไม่เหนียว ไม่หนืด เราเลยจะลง "น้ำตบ" เป็นขั้นตอนแรกเสมอหลังล้างหน้าเสร็จ ทีนี้จะเทลงฝ่ามือแล้วตบๆ หรือจะเทลงสำลีแล้วลูบ มันก็ไม่ต่างกันค่ะ แต่การเทลงสำลีจะช่วยในเรื่อง "ผลัดเซลล์ผิว" ได้มากกว่า เพราะการลูบสำลีไปบนผิวจะช่วยให้เซลล์ที่ตายหลุดติดออกมาด้วยนั่นเองผลลัพธ์ส่วนบุคคลหลังทดลองใช้ครบ 8 วัน เราพบว่า... มันไม่เหมาะกับหนังหน้าเราอะ (ฮือ)
ภาพแรกเป็นภาพก่อนใช้ค่ะ เราไม่ค่อยเป็นสิวอักเสบ เวลาเป็นทีจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้นานมากๆ มีสิวเสี้ยนที่จมูกเยอะ ไม่เคยมีสิวฮอร์โมนส์แบบผู้หญิงมีรอบเดือนทั่วๆไป (เราไม่มีรอบเดือนมาหลายปีแล้วเพราะฉีดยาคุม) ปกติผิวเราค่อนข้างละเอียดระดับนึง คือจะหยาบเป็นบางจุดแต่ถ่ายรูปแล้วไม่เห็นชัด
ตอน 2-3 วันแรกรู้สึกคันๆบริเวณกราม มีปื้นแดงๆเล็กน้อย สงสัยจะแพ้ แต่บ้างก็ว่าเป็นอาการ "ผิวตกใจ" รอสักอาทิตย์จะดีขึ้น และหายขาดในสองอาทิตย์ แต่กรณีเราคือ "หน้ามัน" ระหว้างวันต้องซับหน้าบ่อยมาก มีสิวขึ้นด้วยหลายจุด นอกจากสิวผดมีสิวอักเสบอีก จากคนไม่มีสิวอักเสบมานานเลยรู้สึกตงิดๆ ผ่านไป 8 วัน ผิวดูแย่ลงจนค่อนข้างแน่ใจว่าผิวไม่เหมาะกับตัวนี้ (ฮือ) ทั้งๆที่เราว่ากลิ่นมันหอมสดชื่นมากๆ อารมณ์กลิ่นแบบสไตล์ทะเลๆ เนื้อสัมผัสก็ดี ซึมแล้วผิวชุ่มชื้นทันที มีความเด้ง ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่พอเจอสิว เจอรอยแผลเป็นมันไม่ไหวจริงๆ บายเลยค่ะ
แต่ตัว Aqua Source Ever Plump ที่ได้จากงานถัดมาคือดีงามนะ ตัวนั้นไม่แพ้ ชอบมากๆ ลองแวะไปอ่านรีวิวตัวนั้นได้
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านบทความนี้นะคะ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ลองอินบ็อกไปที่แฟนเพจ Biotherm Thailand ได้เลย
ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบาย ^^
Disclaimer: I did not paid for product in this article, all opinion here is 100% my own.
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?