#ชีวิตทาสการตลาด กับวันเปิดเค้าเตอร์ Jill Stuart Beauty แห่งแรกในประเทศไทย | Kaosuaylunla Diary

#ชีวิตทาสการตลาด กับวันเปิดเค้าเตอร์ Jill Stuart Beauty แห่งแรกในประเทศไทย

อ้างอิงจาก Official Agenda ในเฟสบุคแฟนเพจของ Jill Stuart Beauty TH จะมีโปรโมชั่นโคตร Exclusive ให้กับสาวจิล 200 คนแรกที่มาต่อแถวเค้าเตอร์จิลเพื่อช้อปปิ้ง งานจัด ณ บิวตี้ฮอล สยามพารากอน ทุกอย่างมีความชุลมุนวุ่นวายมากค่ะ นี่จะมาเล่าให้ฟังพร้อมไกด์แนะนำหากมีใครสนใจจะไปต่อคิวที่ไหนยังไงอีก รับรองว่าทริกพวกนี้ช่วยชีวิตคุณได้ชัวร์

#ชีวิตทาสการตลาด กับวันเปิดเค้าเตอร์
Jill Stuart Beauty แห่งแรกในประเทศไทย

ร่วมฉลองวันเปิดเคาน์เตอร์แรกของ JILL STUART ในไทย ซื้อสินค้า 1,000 บาทขึ้นไป รับฟรีทันที! กระจกมือถือมูลค่า 1,250 บาท พิเศษเฉพาะลูกค้า 200 ท่านแรกในวันเปิดเคาน์เตอร์เท่านั้น เปิดเข้าแถวตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป แล้วพบกันนะคะสาวๆ
- ข้อความบนแฟนเพจของจิลกล่าวไว้

เรื่องจริงนั้นไซร้...


เที่ยงก็แถวยาวไป 161 คิวแล้วข่าาาา ว่อททท!!! และการแจกบัตรคิวจะเริ่มตอนบ่ายโมง เท่ากับว่าทุกคนณ ที่นั้น ขยับไปไหนไม่ได้ เพราะถ้าขยับแล้วจะไม่ได้บัตรคิว ใครมีเพื่อน มีครอบครัว ก็ผลัดกันได้อยู่ ใครมาคนเดียวแล้วได้คิวท้ายๆนี่น่าสงสารมาก พอเค้าเตอร์เปิดให้ช้อปเข้าได้ทีละไม่กี่คน ก็ต้องยืนรอวนไปค่ะ ปวดฉี่ก็ต้องฝากคนข้างหน้าข้างหลังไว้ หิวข้าวก็ลำบาก เรามีการเตรียมการเพื่อต่อแถวช้อปมาฝาก จะได้ไม่ไปเสียเที่ยว และไม่ต้องทรมานสังขารจนเกินไปค่ะ

ต่อคิวช้อปปิ้งต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?


  1. ใส่รองเท้าที่ยืนสบายเดินสบาย เอาส้นสูงเก็บไป
  2. ติดน้ำและขนมของว่างมาด้วย ถ้าต้องกินข้าว พกข้าวปั้นแทน จะได้ไม่ต้องเสียที่ให้ใคร
  3. พกเพื่อนไปด้วย เวลาไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระอื่นๆจะได้ผลัดกันยืน
  4. ทำรายการเตรียมไว้ล่วงหน้าว่าอยากได้อะไรบ้าง
  5. เตรียมเงินให้พร้อม เผื่อขาดไปเลย ไม่ต้องเผื่อเหลือ (อันนี้ประเด็นหลัก 555)


แอบเอารายการที่เราลิสต์ไว้มาให้ดูค่ะ
I. Lip Blossom 950THB
II. Layer Blush 1650THB
III. Crystal Lucent Face Powder 1750THB
IV. Compact Mirror 980THB

สามารถเช็คสีและรายละเอียดทุกอย่างได้ที่เว็บ Official ของ Jill Stuart Beauty ประเทศไทยได้เลย
แต่เราว่าทุกคนพอไปอยู่หน้างานมันต้องอยากได้นู่นอยากได้นี่ ขนาดตัวเราเองไม่มีพื้นที่ให้ลองอะไรเท่าไหร่เพราะคนเยอะมากกก เค้าจะมีใบออเดอร์มาให้เรากรอกว่าสินค้า+สี+จำนวน ที่ต้องการมีอะไรบ้าง คนที่เตรียมตัวมาก่อนจะเสร็จไวกว่าค่ะ แถมคิวท้ายๆมาจะเจอเหตุการณ์ Out of Stock ของหมด!! มาวันแรกหมดเฉย เห้ยอะไรวะ - -* (มันเกิดขึ้นจริงๆค่ะคุณ 555)

เราจ่ายเงินจองของไปก่อนหลายรายการแล้วต้องกลับมาเอาอีกวัน เพราะวันที่เราไป ถุงจิลหมด ได้ถุงพารากอนมาแทน กระจกตั้งโต๊หมดต้องรอบริษัทเอามาเติม กระจกพับก็หมด แป้งก็หมด แถมยังหยิบลิปมาผิดอีกต่างหาก (ฮาาา) คือตัวกลอสจะมี 2 รุ่นค่ะ แล้วสีที่เราอยากได้(เพิ่ม)มันเป็นรุ่นลิมิเตท


ทางเค้าเตอร์เค้ารับผิดชอบเปลี่ยนให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมค่ะ เพื่อนเราใช้ให้สามี (ที่สูงยาวเข่าดีหน้าหล่อเกาหลี) ไปคุยกับพนักงานให้ วันที่ไปนี่ได้มาครบ ทั้งกระจกตั้งโต๊ะของแถมที่ค้างไว้ และรายการต่างๆที่วันนั้นหมด นางมีอวดด้วยนะว่าได้คุกกี้จิลด้วย (อิจนาง) แต่ตัวตลับแป้งพนักงานแจ้งว่าหมดแล้วต้องรอเดือนหน้าอันนี้ไม่ได้จ่ายไว้แต่แรก เพื่อนเราเลยต้องรอวนไปค่ะ

สรุปว่างานเปิดเค้าเตอร์จิลเราใช้เวลาไปร่วม 5 ชั่วโมง ได้ของมาทั้งหมด 7 รายการ ในนี้มีกระจกตั้งโต๊ะและกระจกถือ ของแถมอันมาจากความพยายามและน้ำพักน้ำแรงที่ไปต่อแถวเพื่อเป็น 200 คนแรก

จ่ายไปราวๆ 5 พันกว่าบาท รู้สึกปลื้มปริ่ม มีความคุ้มค่า แม้จะมีน้ำตาซ่อนอยู่เพราะเฟลมากที่วันแรกไปแล้วมันวุ่นวาย ของก็ได้ไม่ครบ ถุงจิลก็ไม่ได้ของใส่มาเป็นถุงพารากอน เราเข้าใจความรู้สึกคนบ้านไกลที่ถ่อมาเพื่องานนี้เลยจริงๆ คงคาดหวังเอาไว้มากว่าจิลจะดูแลลูกค้าได้ดีกว่านี้

แต่ในมุมของแบรนด์เราก็เข้าใจนะว่าจิลพยายามทำดีที่สุดแล้ว ของเปลี่ยนได้ อะไรที่จองไว้ก็ได้ครบไม่ตกหล่น สตาฟมีน้อยมากเมื่อเทียบกับบรรดาฝูงชนที่มาต่อแถวกันวันนั้น(รวมทั้งเรา)

สิ่งที่ควรปรับปรุงน่าจะเป็นการสื่อสารมากกว่าค่ะ จิลสื่อสารสับสน ทำให้คนที่อ่านข้อความมาตอนบ่ายโมงไม่ได้คิว 200 คนแรก ควรแจ้งใหม่เป็นเริ่มแจกบัตรคิวบ่ายโมง เพราะน่าจะรู้ว่าเราไม่สามารถบังคับลูกค้าได้ คนมาเช้าเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะมาเช่นกัน อีกอย่างคือควรแจ้งตั้งแต่แรกว่าให้เตรียมรายการสินค้ามาเลยเพื่อความรวดเร็ว คิวจะได้ไหลลื่น เค้าเตอร์เล็กๆยังไงก็รองรับคนพร้อมกัน 200 คนไม่ได้ น่าจะมีวิธีบอกล่วงหน้าที่ดีกว่านี้ 

ของเข้ามาน้อยมากจริงๆเมื่อเทียบกับความต้องการของสาวๆ แต่ถ้ามีโปรเราว่าคุ้มกว่าพรีออเดอร์ ราคาไม่ได้ทิ้งห่างกันมากเวลาใช้แต้มลดหรือมีโปรลด 10% ทั้งเค้าเตอร์มันก็เป็นอะไรที่น่าลงทุน ใครสนใจลองแวะไปเค้าเตอร์จิลแล้วมาเล่าสู่กันฟังได้นะ เราไปมาทีเดียวขอบายยาวๆ มีความเหนื่อย (ฮา) ไว้รอกระแสซาๆ จะแวะไปเทสให้หนำใจเลยค่ะ

บล็อกนี้เป็น consumer review 100% ไม่มีบัดเจ็ทหรือได้รับสปอนเซอร์ใดๆจากแบรนด์นะคะ ไว้บล็อกหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าของที่ได้ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ทุกอย่างยังนอนอยู่ในกล่อง ยังไม่มีเวลาแกะเลยจริงๆ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าน้า บ๊ายบาย ^^

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?