รีวิว White Shuffle ร้านอาหารสไตล์อเมริกัน โฮมเมด | Kaosuaylunla Diary

รีวิว White Shuffle ร้านอาหารสไตล์อเมริกัน โฮมเมด

เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสพาครอบครัวไปลองชิมอาหารที่ร้าน White Shuffle (ไวท์ ชัฟเฟิล) มาค่ะ เห็นเพื่อนๆหลายคนไปทานแล้วอัพรูปลงโซเชียลกันสนุกสนาน นี่เลยหนีบแฟมิลี่ไปด้วย บอกไว้ก่อนว่ารู้จักกับ PR ของร้านเลยได้เว้าเชอร์มาทานฟรี แต่ก็ทานเกิน (ฮา) ควักจ่ายเองเหมือนกันนะจ๊ะ ทานอะไรไปบ้าง อันไหน recommend ตามขุ่นแม่มามุงกันเลย

"ไวท์ ชัฟเฟิล" (White Shuffle) 

ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ร่วมสมัย นำคุณหวนกลับไปสู่ยุค 80’s - 90's ณ East Village จุดกำเนิดของ New American Cuisine ที่รวบรวมเอาวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลาย ผสมผสานในแบบโฮมเมดที่เน้นการค้นหาวัตถุดิบที่สดใหม่ และหาได้ง่ายตามฤดูกาล มาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นเมนูที่มีสีสัน ด้วยประสบการณ์ของ เชฟนิก - กฤษฎา จินตกานนท์ Head Chef และเจ้าของร้าน ที่หลงรักการเดินทาง และชอบเรียนรู้วัฒนธรรมด้านอาหารที่แตกต่าง เพื่อเปิดรับรสชาติใหม่ๆ และถ่ายทอดผ่านอาหารตามปรัชญาความเป็นธรรมชาติ ที่ถูกปรุงแต่งแต่เพียงพอดี โดดเด่นด้วยรสชาติที่นำคุณหวนสู่ความประทับใจแรก...


เกี่ยวกับ White Shuffle (ไวท์ ชัฟเฟิล)
"ที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่แบบโพสต์โมเดิร์น ที่ยังสลัดความดั้งเดิมไปไม่ออก เราหยิบยกความแลดูเก่ามาเป็นกิมมิค แล้วเพิ่มเติมความทันสมัยเข้าไป ทำให้เกิดการผสมผสานใหม่ๆ ของวัสดุที่แปลกตา และการตกแต่งบรรยากาศให้อยู่ในธีมความขาวที่กลมกลืนอย่างลงตัว พร้อมเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่แปลกใหม่ให้ลูกค้า จากเมนูง่ายๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจในรสชาติ ซึ่งทั้งหมดคือความตั้งใจในการวางรูปแบบของ "ไวท์ ชัฟเฟิล" ให้เป็นสถานที่ที่ลูกค้าแวะเวียนเข้ามาได้ทั้งวันด้วยความรู้สึกเป็นกันเอง" 
พิชาญ สุจริตสาธิต - อาร์ต ไดเร็คเตอร์ ไวท์ ชัฟเฟิล _______________________________________________________________________________

ร้าน White Shuffle เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 น. – 24.00 น. 
ที่ตั้ง: โซน Bar & Bistro (บริเวณทางเข้าหลัก) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
โทร.02-553-6177 e-mail: eatshuffle@gmail.com

HERB FRIES WITH CHEESY DIP (165THB)

มันฝรั่งทอดโรยสมุนไพรและเกลือทะเล ทานกับซอสชีสสูตรเฉพาะของร้าน
เป็นเมนูง่ายๆที่ใครพาเด็กๆมาต้องสั่งไว้ ตอนแรกที่สั่งมาเพราะไม่รู้ว่าเค้ามีออเดิฟของร้านเป็น Complimentary Croissant (ขนมปังครัวซองต์ ฟรี) 1 คนได้ 1 ชิ้น เลยทานกันไม่หมดค่ะ ใครกะสั่งมาเป็นออเดิฟแนะนำว่าให้เผื่อท้องไว้นิดนึง เอาจริงๆส่วนตัวทานแค่ครัวซองต์ก็พอ มันฝรั่งทอดมันมาเป็น Side Dish กับจานอื่นอยู่แล้ว ใครไม่ได้เป็น Potato Lovers ก็แนะนำให้ผ่านไปชิมอย่างอื่นเลยค่ะ

 RUSTIC QUESADILLA (195THB)

แผ่นแป้งแม็กซิกันอบกรอบสอดไล้แซลมอน หรือจะเลือกเป็นพาร์มาแฮมก็ได้ กรุบกรอบกำลังดี เลือกเมนูนี้มาให้ลูกชาย แต่นางชิมคำเดียวค่ะ (ฮา) เหมาะเป็นออเดิฟเบาๆสำหรับคนที่ไม่อยากกินอะไรหนักๆ

PAN ROAST BARRAMUNDI (390THB)

ปลากระพงขาวทอดหนังกรอบซอสพริกหยวก เมนูรักสุขภาพเอาใจสาวๆและคุณย่าคุณยายเพราะเป็นเมนูที่ทานแล้วไม่อ้วน รสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็มกลมกล่อมกำลังดี ถ้าเป็นหนุ่มๆสาวๆทั่วไปจานเดียวอาจจะไม่อิ่ม แนะนำเป็นมื้อเบาๆวันชิลๆ ใครอยากได้หนักกว่านี้ แนะนำจานถัดไปเลยค่ะ

ANGEL HAIR OLIO MUSHROOM & BACON (225THB)

สปาเก็ตตี้เส้น Angel Hair (เล็ก+บาง พิเศษ) ผัดกับน้ำมันมะกอก เบคอนและเห็ดย่าง เสริฟพร้อมพาเมซานชีสขูดฝอย จานนี้ถ้ากินคนเดียวอิ่มตึ้บแน่นอน ให้เส้นมาเยอะมากพอๆกับเบคอน และหมูสามชั้นทอดที่รีดมันออก คือกรอบเค็มมันกำลังดี เป็นจานที่มีมติโหวตอยากให้มาลองกันค่ะ

BBQ RIBS (390THB)

ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิว ซอสอร่อย หมูนุ่ม ล่อน ทานง่าย แค่กัดก็ร่วนออกมาเลย แต่รอบที่ไปชิมตัวเนื้อแอบแห้งไปนิดนึง ได้ความชุ่มฉ่ำของซอสมาช่วยไว้ ถ้าซอสไม่เด็ดจานนี้อาจจะมีดับได้ ราคาถือว่าไม่แพงเลย แบ่งกันทานได้ 2-3 คนแถมยังมีมันฝรั่งทอดมาเป็นเครื่องเคียงให้ด้วย

ANGUS RIBEYE STEAK (1390THB)


"ริบอาย สเต็ก" คือเนื้อส่วนต้นซีโครงที่ตัดเอากระดูกและเอ็นรอบนอกออกเหลือแต่เนื้อส่วนกลางที่ให้รสชาติดีที่สุด เป็นส่วนที่นุ่มและมีรสเข้ม สามารถเลือกระดับความสุกเองได้ วันนั้นไปลองแบบ Medium Rare คือสุกกลางๆพอมีเนื้อแดงๆฉ่ำอยู่ ตอนทานไปก็ลุ้นไปมากว่าจะคาวมั๊ย เพราะปกติเจอประสบการณ์คาวเลือด เคี้ยวยาก กลืนไม่ลงมาหลายต่อหลายครั้งกับการทานสเต็กเนื้อ


ลอทนี้บอกเลยว่าเด็ดมาก แม้แต่คุณพ่อสามีวัย 60+ ที่มีปัญหาเเรื่องปวดฟันยังสามารถเคี้ยวได้ ปกติคุณพ่อชอบทานเนื้อมาก แต่เลิกไปเพราะปัญหาเรื่องฟันนี่แหละ บอกเลยว่าเนื้อดี เมนูนี้ไม่มีเหลือกลับบ้าน สิ่งที่เรากินไม่หมดรอบนี้มีแค่มันฝรั่งทอดและแผ่นแป้งแม็กซิกันเท่านั้น ทีเหลือกินกันเรียบค่ะ รวมทั้งหมด 4 ชีวิต มีคุณพ่อสามี, สามี ตัวเล็ก กับขุ่นแม่ รวมๆมื้อนี้ตกราวๆ 3 พันกลางๆ (มีVAT 7% และ เซอร์วิสชาร์จ 10%) จบตรงที่จ่ายเพิ่มกัน 560 บาทฮะ
ด้วยความที่ครั้งนี้เน้นของคาว ไม่มีใครได้นึกถึงของหวานหรือเครื่องดื่มแปลกๆ เลยกะจะขอติดไว้คราวหน้าว่าจะมาชิมของหวาน+กาแฟโดยเฉพาะ เมนูน้ำที่แนะนำตอนนี้ชอบ Cold Press Juice No.4 ที่ผสมผลไม้สกัดเย็นอย่าง ส้ม, บร็อคโคลี่, แอปเปิ้ลเขียว และมะม่วงเข้าด้วยกัน เปรี้ยวหวานกำลังดีไม่แหลมไป ส่วนคุณสามีแนะนำชาเย็นของที่นี่เพราะไม่ใส่น้ำเชื่อมเลยไม่หวาน (ฮา) เค้าจะมีแยกน้ำเชื่อมมาให้เราผสมเองค่ะ พรีเมียมสุดๆไปเลย

เรื่องบริการ เราให้ที่นี่ 8/10
รสชาติให้ 9/10
ความสวยงามและบรรยากาศเอาไป 10/10 เลยค่ะ
เป็นโลเกชั่นที่เหมาะมาเช็คอินและถ่ายรูปอัพลง Instagram สุดๆค่ะพูดเลย

บล็อกนี้ไม่ได้รับสินจ้างในการผลิตงานขึ้นมานะคะ ความคิดเห็นตรงนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ คนอื่นอาจได้พบประสบการณ์แตกต่างกัน อยากให้มาลองด้วยตัวเองกันก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะแนะนำต่อหรือไม่ ส่วนตัวเราจะแนะนำต่อแน่นอน เพราะแค่ไปนั่งกินกาแฟก็คุ้มกับบรรยากาศที่ได้แล้ว ใครทำงานสายที่ต้องใช้ความคิด ต้องการไอเดีย ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งที่ เหมาะสำหรับการมานั่งชิลสุดๆค่า

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆในละแวกนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
พบกันใหม่บล็อกน้า ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านค่า ^^

Disclaimer: I got invited but there is no budget involve.

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?