หมดแล้วบอกต่อ รีวิว Ocean Skin น้ำตบปลาวาฬ | Kaosuaylunla Diary

หมดแล้วบอกต่อ รีวิว Ocean Skin น้ำตบปลาวาฬ

ต้องบอกว่ามีความเกลียดโฆษณา เกลียดแบบ ต้องเล่นใหญ่เบอร์นี้เลยเหรอแก? แล้วก็นั่งขำนานมาก พอมีคนเสนอว่าจะส่งมาให้ลอง เอาดิวะ อยากรู้ว่ามันจะเริ่ดยังไง ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย จากที่เคยลองมาหมดแล้วทั้งพิเทร่า แพลงก์ตอน วันนี้เจอแบบคอมโบในราคาเริ่มต้นที่ 590 บาท กับ ขนาด 50มล. เฮ้ยมันเป็นไปได้จริงๆเหรอแก? ถูกและดีเบอร์นั้น??? อะค่ะ มาลองซิ จัดไป โนจ้างนะ ลองแล้วมาเล่าจริงๆไม่อิงงานมโน!


รีวิวน้ำตบปลาวาฬ Ocean Skin


ขนาด 50ml ราคา 590 บาท
ขนาด 150ml ราคา 1490 บาท

ความพีคของแบรนด์นี้ไม่ใช่แค่การโฆษณานะจ๊ะ แต่เป็นการกล้าชนน้ำตบสองแบรนด์ดังที่ครองตลาดพรีเมียมอย่าง SK-II กับ Biotherm ที่ทำให้อิชั้นรู้สึกว่า"ขนาดนั้นเลยเหรอวะ?" นางกล้าชนมุมไหนอะมาดูกัน

Ocean Skin Speedy Miracle Deep Ocean Water Essence ประกอบไปด้วยสารสำคัญ
แพลงตอน GP4G 10%
Galactomyces หรือ พิเทร่า 75%
Hyaluronic acid 3% 
มีน้ำหอมเป็นส่วนผสมสุดท้าย คือใส่มาไม่มาก ให้เครดิตเรื่องกลิ่นค่ะ ทำดี ตอนใช้ไบโอเธิมรู้สึกเหมือนได้ไปทะเลทุกครั้งที่เปิดขวด(ฮาา) แต่อันนี้มีความสกินแคร์หอมอ่อนๆน่าใช้ตามท้องเรื่อง
ซึ่ง!!! จุดพีคคือ Brand claim ว่ามีแพลงตอนมากกว่าไบโอเธิม และมีพิเทร่า "ใกล้เคียง" SK-II เอ้าสนุกละสิ เอามาผสมกันแบนี้หน้าจะไม่แหกแน่นะเหวย? จากประสบการณ์ที่ผ่าน Beauty Bound by SK-II ซีซั่นแรก และการได้ไปร่วมงานกับไบโอเธิม ทำให้เราได้ลองสองตัวดังนั้นมาก่อนแล้ว ละตัวนี้ควรจะได้ผลลัพธ์เลิศพอๆกับสองตัวนั้นรวมกัน!! 

เบื้องต้นเช็คแล้วบรรจุภัณฑ์ระบุชัดเจนว่าเปิดแล้วควรใช้ให้หมดใน 12 เดือน มีเลขจดแจ้งครบถ้วน ฉลากภาษาไทยก็มีมาให้ไม่ต้องกลัวอ่านไม่ออก

วิธีใช้ก็แบบน้ำตบทั่วไปค่ะซิส


เหยาะๆลงมาแล้วก็ตบๆลูบๆให้ซึมในขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าเสร็จ

จากนั้นค่อยลงสกินแคร์ตัวอื่นๆตามปกติ ชอบเนื้อมันนะมีความลื่นๆ แต่ไม่เหนียว ซึมไว พอซึมแล้วก็หายลงผิวไปเลย ตรงนี้ทำ texture ออกมาได้เริ่ดอยู่ อะเชียร์สำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำตบเหนียวๆ ตัวนี้ตอบโจทย์นะยูว


ใช้จนหมดแล้วให้คะแนน 7/10
คือเป็นสกินแคร์ที่ "ดี" แต่ยังไม่ "ว้าว" ถึงขั้นชนกับเค้าเตอร์แบรนด์สองตัวดังนั้นได้ เอาจริงๆคอนเซปท์ทำมาดีนะ เป็นเครื่องสำอางดรักสโตร์ที่ใส่ส่วนผสมหรูๆ สำหรับคนทั่วไปเอื้อมถึงได้ อีกอย่างคือผลลัพธ์เราว่าหนังหน้าเรามันก็ไม่ได้พัฒนาอะ เป็นการทรงๆไม่ให้ทรุดมากกว่า พอหมดได้เปลี่ยนไปใช้เค้าเตอร์แบรนด์หน้าก็ฟูเด้งขึ้นไปอี๊กก (หน้าเริ่มติดของแพง ชิบหายละค่ะ 555) เลยขอจัดไว้เป็นสกินแคร์กลางๆนะ คนอื่นถ้าใช้แล้วพีค ก็แวะมาคอมเม้นทิ้งไว้ได้ อย่าลืมว่าผลลัพธ์แต่ละคนมันไม่มีทางเหมือนกัน 100% ชั้นใช้ดีอาจจะมีคนอื่นใช้แล้วหน้าแหกก็ได้อะไรงี้ ขอให้อ่านไว้เป็นความคิดเห็นอีกอันก่อนตัดสินใจซื้อแล้วกันนะคะ
พบกันใหม่บล็อกหน้า วันนี้ไปละ บ๊ายบายย ^^

Disclaimer: I did not get paid or pay for this product.
All opinion here is my own 100%

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?