ลิป YSL ดียังไง? มารีวิวให้ฟังกับรุ่น ROUGE PUR COUTURE THE MATS | Kaosuaylunla Diary

ลิป YSL ดียังไง? มารีวิวให้ฟังกับรุ่น ROUGE PUR COUTURE THE MATS

เมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา (11/2016) มีโอกาสได้ไปลองสวอทช์ลิป YSL (วาย-เอส-แอล) หรือ Yves Saint Laurent (อีฟ แซงท์ โลรองต์) ถึงเค้าเตอร์พารากอน
(กราบภาพสวยๆจากตากล้องทีมงาน a1113  )

สืบเนื่องด้วยวาระ ที่ทางแบรนด์ Yves Saint Laurent ปล่อยสีใหม่ของลิปสติกซีรีส์ ROUGE PUR COUTURE รุ่น THE MATS ใส่เค้าเตอร์ไทยเพิ่ม 5 เฉดสี :

  • เบอร์ 214 WOOD ON FIRE: สีอิฐนู้ดเร้าใจ 
  • เบอร์ 215 LUST FOR PINK: สีชมพูบานเย็นสุดเท่ 
  • เบอร์ 216 RED CLASH: สีแดงสะดุดตา 
  • เบอร์ 217 NUDE TROUBLE: สีชมพูดินเผาเร่าร้อน 
  • เบอร์ 218 CORAL REMIX: สีนู้ดคอรัล


แล้วทางแบรนด์ก็ใจดี ให้ไปลองเนื้อลิปสติก ROUGE PUR COUTURE (รูจ พูร์ กูร์ตูร์) ที่มีทั้งหมดในเค้าเตอร์ ก่อนจะให้ตัดสินใจเลือกมาใช้ 2 สี แต่ด้วยความที่เราไปคิวท้ายๆ สีที่ได้เลยมีความใกล้เคียงกัน (มาก) แต่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้พิสูจน์ประสิทธิภาพลิปสติกของอีฟแซงฯสักทีนะ เห็นเค้าล่ำลือกันมานาน มันดียังไง ไหนตามมาอ่านไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

YVES SAINT LAURENT
Rouge Pur Couture Lipstick 

มาพร้อมกับโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ได้แก่ แดง-ส้ม-และชมพูฟูเชีย  ลิปสติกให้สัมผัสกับเท็กซ์เจอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นและพลังปกป้องที่อุดมไปด้วยเม็ดสีแบบใหม่ที่จะช่วยเคลือบเรียวปากด้วยเนื้อลิปที่นุ่มเนียนอย่างเหลือเชื่อ มีเฉดสีให้เลือกกว่า 30 สี
เนื้อบางเบา แต่ให้สีชัด เนื้อนุ่มไม่ได้แมทแห้งสนิท เป็นแบบ Semi-Matte สัมผัสแบบกำมะหยี่ลื่น ติดทนนาน

YSL Rouge Pur Couture The Mats

ปริมาณ 3.8 กรัม Made in France เปิดแล้วมีอายุ 24 เดือน
ราคาปกติ 1450 บาท (ลด10% อยู่ที่ 1305 บาท)
หาซื้อได้ที่เค้าเตอร์ YSL ทุกสาขา หรือเว็บไซต์ Central Online
จากส่วนผสมของลิป YSL ที่พออ่านออกก็มี Jojoba Oil ที่ให้ความชุ่มชื้นอยุ่ โอเค เค้าไม่ได้เคลมลอยๆเรื่องมอบความชุ่มชื้นทนนานกว่า 6 ชั่วโมงนะจ๊ะ พิสูจน์ได้เพราะใส่ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นมาด้วยจริงๆ ข้อมูลในเว็บบอกว่าผสม SPF15 มาให้ด้วย ก็สามารถช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดได้ส่วนนึงด้วย

แพคเกจสีทองเงา เป็นรอยนิ้วมือง่ายแต่ก็เช็ดออกง่าย มีน้ำหนัก ไม่ก๊องแก๊ง สามารถใช้ปลอกลิปแทนกระจกพกพาสำหรับทาลิปได้จริงไม่ใช่แค่งานโฆษณาหลอกเด็ก (ลองแล้ว ได้อยู่ 555) บนกล่องมีเบอร์เขียน เวลาซื้อเสร็จเช็คได้เลยว่าพนักงานขายหยิบมาให้ถูกรึเปล่า ส่วนที่ตัวลิปเบอร์จะอยู่ตรงฐานด้านใต้ มีแค่เบอร์นะ ไม่มีชื่อมาให้ ใครอยากรู้ว่าเบอร์ไหนชื่ออะไรเข้าไปเช็คในเว็บเซ้นทรัลออนไลน์ดู

อย่างเบอร์ 202 ของเราอันนี้ชื่อ Rose Crazy เป็นแดงกลีบกุหลาบติดชมพูละมุนๆนิดๆ ส่วน 216 ชื่อ Red Clash เป็นสีใหม่ที่เพิ่งหยิบมาโปรโมทกันเนื้อแดงเข้มคลาสสิกแบบ Cara Delavingne (คาร่า เดลาวีญ) พรีเซนเตอร์สุดเท่ ของแบรนด์ YSL
สวอทช์ให้ดูบนแขนคือสีแน่นมากกกกก แบบ กอไก่ยาวเป็นหางว่าวจุฬา 

และความพิเศษของรุ่นนี้คือด้วยความที่มันไปแน่นได้สุด มันเลยสามารถบิ้วจากอ่อนๆ ไปหาเข้มได้ ทีนี้จะออมเบรหรือจะเบลน์ให้ดูใสๆสไตล์เกาหลีก็ทำได้ในแท่งเดียวเลย แตะๆแบบเบามือจะใช้แทนบลัชออนหรืออายชาโดว์ก็ไหว ขอให้ลองฝึกมือดูค่ะ
จากที่คิดว่า 1450 คือ "แพง" กลายเป็นว่าด้วยฟังชั่น/คุณภาพ/และผลลัพธ์ที่ได้ มันทำให้ลิปสติก YSL "สมราคา" ขึ้นมาทันที ใครไม่ลองคงไม่รู้ 
แนะนำให้ไปลองทาที่เค้าเตอร์แล้วพักกินข้าว ดื่มชาไข่มุก ดูนัง กินป็อปคอร์น แล้วกลับบ้านไป "ล้าง" เมคอัพออก จะเห็นเลยว่านอกจากความ "ทน" มันยังทำให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่นจริงๆ ไม่ทำร้ายปากแบบลิปแมทหลายๆยี่ห้อที่ Crack แตก ตกร่อง ทำให้ปากเรากร้าน แห้ง หมองคล้ำ คือของแบบนี้เป็นการลงทุนอะ เราพูดเลยว่าถ้ามันหมด เราจะซื้อซ้ำมาใช้อีกแน่นอน ที่ไม่ซื้อบ่อยๆไม่ใช่อะไรนะ... กำลังทรัพย์ไม่อำนวยจ้า 55555
หวังว่าบล็อกนี้จะให้คำตอบสาวๆได้บ้างนะคะว่าทำไมลิป YSL ถึงกลายเป็นของรักของสาวๆหลายๆคนที่ต้องมีไว้ติดกระเป๋า งานบล็อกนี้ไม่มีใครจ้าง เขียนด้วยความอินล้วนๆ ใช้เอง ชอบเองเลยอยากแนะนำต่อ ใครมีความคิดเห็นยังไงหรืออยากแนะนำให้ลองรุ่นไหนอย่าลืมแวะมาคุยกันนะ

วันนี้ไปแล้ว บ๊ายบาย ^^

Disclaimer: I did not purchased the products but all opinion here is 100% my own.

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?