แนะนำร้านสเต็กดีต้องโดน รีวิว รสดีเด็ด The Steak House | Kaosuaylunla Diary

แนะนำร้านสเต็กดีต้องโดน รีวิว รสดีเด็ด The Steak House

รีวิวร้านสเต็ก รสดีเด็ด The Steak House วันนี้ต้องออกตัวก่อนว่ามีภาพสวยๆจากคุณพ่อที่มีงานอดิเรกถ่ายรูปลง Shutterstock มาช่วยเป็นส่วนใหญ่ ภาพไหนมีลายเซ็นอยู่มุมภาพ นั่นแหละ ของพ่อ ไม่ใช่ของชั้น 5555 ภาพอื่นๆที่ดูเรียลๆก็จะมาจากกล้องของอิชั้นเองซึ่งประกอบไปด้วย Olympus EPL7 กับไอโฟน 7+ แน่นอนว่าเราไม่ได้ปรับสีอะไรเลย เรี๊ยลเรียล เพราะปรับไม่เป็น (ผ่ามพ้าม!) ส่วนคุณพ่อปรับใน Lightroom ซึ่งหากใครต้องการชมผลงานคุณพ่อเพิ่มเติม ตามไปดูได้ที่โปรไฟล์ "Suratn Sridama" ได้เลยจ้า
data-matched-content-ui-type="image_card_stacked" data-matched-content-rows-num="1" data-matched-content-columns-num="3" data-ad-format="autorelaxed"


รีวิว รสดีเด็ด The Steak House
แนะนำร้านสเต็กดีต้องโดน 


ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบพรีเมียมที่เป็นเจ้าของเดียวกับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดัง "รสดีเด็ด by นพ" ที่มีการพัฒนาเปิดไลน์บุฟเฟ่ปิ้งย่าง (อ่านรีวิวปิ้งย่าง คลิกที่นี่) ตามมาด้วยร้านอาหาร Steak House ที่ผสมผสานอาหารสไตล์ไทยๆ เข้ากับเมนูสเต็กรสจัดจ้าน ใครสายเนื้อจะต้องฟินตาแตกไปตามๆกันเพราะไลน์เนื้อที่นี่คือมีให้เลือก เยอะ มากกก! ร้านเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายนของปี 2018 ชี้เป้าโลเกชั่นมาไม่ยาก ถ้าเอารถมามีที่จอดหลังร้านเข้ามาทางซอยจุฬา 36 ถ้าเดินมาจาก MRT สามย่านฝั่งจามจุรีสแควร์ก็เดินสั้นๆประมาณ 5 นาทีถึง ร้านจะอยู่ฝั่งติดถนนใหญ่ ตามแผนที่นี้มาหาเจอแน่นอน

รสดีเด็ด The Steak House

ร้านเปิดให้บริการทุกวัน
เวลาเปิดให้บริการ: 11.00น. - 22.00น.
รายละเอียดเพิ่มเติม: แฟนเพจ Roddeeded The SteakHouse

ลองแล้วชอบทุกอย่าง แต่เมนูแนะนำที่ถูกใจเป็นพิเศษคือสลัดมันบด (120TB), บัฟฟาโลว์วิงส์ (180THB), สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งเบค่อน (220THB) และเนื้ออออออออ อร่อยทุกจานนนน!!!!!!


จากบรรทัดนี้ไปจะเล่าให้ฟังกันแบบละเอียดๆ ใครเบื่อแล้วก็กดปิดได้ ทุกอย่างที่อยากบอกได้บอกไปหมดแล้ว (แบบนี้ก็ได้ด้วย 555) วันที่ไปทานคือเป็นวันเกิดอิชั้นพอดี อายุครบ 28 ในวันที่ 28 แล้วก็ได้รับเชิญให้ไปทานอาหารที่ร้าน ซึ่งถ้าเราไม่อิน เราจะเขียนไม่ออก และจะบอกไม่ได้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง แต่อันนี้ยังคงจำรายละเอียดได้ครบถ้วน ถ้ามีโอกาสก็จะไปซ้ำเองแบบโนสปอนเซอร์ ถือว่าเป็นร้านที่ควรค่าแก่การโปรโมทยิ่งนัก คนไปกินตามไปบ่นเราแน่นอน เรามั่นใจว่ามันอร่อยยย!!!!


วันที่ไปคือไปกับครอบครัว ประกอบไปด้วยพ่อแม่สามี ลูกสาวคนเล็ก สามี แล้วก็ตัวเรา รวม 4 คน กับลูกสาวคนเล็กติดสอยห้อยตามมาแต่ไม่นับเพราะนางกินอะไรไม่ได้นอกจากสลัดมันบด (น้องอายุ 10 เดือนเองค่า)

มาทยอยรีวิวกันทีละเมนูเลยดีกว่า

CEASAR SALAD WITH SALMON 280THB
(ซีซาร์ สลัด กับแซลมอน ราคาจานละ 280 บาท)

ซีซาร์สลัดผัดสดๆกรอบๆ มาพร้อมแซลมอนที่กริลล์จนกรอบนอกนุ่มใน รสชาติคือหมักเครื่องปรุงมาแล้ว อร่อยได้ที่ จานนี้ใครกำลังรักษาหุ่นก็ทานได้ไม่ต้องห่วงแคลฯ แต่อุตส่าห์มาร้านสเต็กทั้งที เธอจะสั่งแค่สลัดจริงๆเหรอ? 

ข้างๆกันคือสลัดมันบดที่ทำออกมาได้ละเอียดละเมียดละไม รสดีมากๆ ฟินลื้มมมม และใช่ค่ะ รูปนี้พ่อสามีถ่าย เอาลงเพราะสวยกว่ารูปเราถ่ายเอง 5555

MASHED POTATO SALAD 120THB
(สลัดมันบด ราคาจานละ 120 บาท)

ขอให้ลืมมันบดเคเอฟซีไปก่อน อันนั้นมันอาหารฟาสต์ฟู้ด ถ้าอยากทานมันบดโฮมเมด รสชาติละมุนลิ้น แบบ มันบดเป็นมันบดอะแกร ไม่ต้องหนักซอสเกรวี่อะไรเลย อยากลิ้มรสมันบดอร่อยๆ จงสั่งสลัดมันบดร้านสเต็กรสดีเด็ด!! เมนูนี้รสชาติเป็นธรรมชาติมากๆ อร่อยธรรมชาติแบบเด็กทานได้สบายๆ ใครชอบมันฝรั่งอย่างเราก็ห้ามพลาด ส่วนใครที่ชอบน้ำเกรวี่หนักๆ เมนูนี้ก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ พิจารณากันตามเหมาะสมเนอะ


ชอบถ้วยและถาดที่เอามาใส่มากๆ มีความเป็นหม้อเหล็กไซส์มินิ มาในถาดไม้ ดูเป็นงานคราฟ์ ใส่ใจกระทั่งภาชนะ ชอบมากก็อวยมากแบบนี้แหละ อย่าเพิ่งเอียนกันนะ เพราะมีเรื่องให้อวยอีกเยอะ!!

STIR-FRIED SPAGHETTI WITH DRIED CHILLI AND BACON 220THB
(สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งเบค่อน ราคาจานละ 220 บาท)



นี่คือเมนูโปรดของเรา แบบถ้าเข้าร้านอาหารอิตาเลียนใดๆที่มีสปาเก็ตตี้พริกแห้งเบค่อนให้สั่ง เราก็จะสั่ง และขอบอกเลยว่าร้านนี้ทำได้รสดีกว่าเกรย์ฮาวนด์คาเฟ่ คือออกมาไม่เลี่ยน ไม่เผ็ดจนแสบลิ้น (เรากินเผ็ดได้แค่นิดหน่อย) และมีการปรุงรสชาติให้กลมกล่อม ไม่ได้ผัดน้ำมันมะกอกเฉยๆ คือทานได้จนหมดจานจริงๆ ขนาดก็มาสมราคา คือถ้ากินคนเดียวจานนี้เรากินไม่หมดแน่นอน ต้องแบ่งกัน 2 คนกำลังดี


ใช่ค่ะ รูปบนพ่อถ่าย รูปนี้เราถ่ายเอง มันก็จะเรียลๆนิดนึง (ฮาา) คืออยากให้เห็นดีเทลเครื่องปรุงที่เคลือบเส้นต่อเส้น ปรุงมาทั่วถึงจริงๆ คือเมนูนี้ถ้าคนปรุงทำไม่ถึงมันจะเลี่ยนมากๆ หรือไม่ก็เผ็ดมากๆ แต่อันนี้คือความลงตัวมากๆ ใครชอบสปาเก็ตตี้เบค่อนแห้งแบบเราแล้วอยากหาร้านที่ทำอร่อยๆ ขอแนะนำร้านนี้เป็นอีกร้านที่ต้องมาลอง

BUFFALO WINGS 180THB
(ไก่ทอดบัฟฟาโลว์วิงส์ ราคาจานละ 180 บาท เสิร์ฟพร้อมบลูชีส)



อันนี้คือดีมากกกกกกกกก ชั้นรักไก่ทอด และชั้นรักบัฟฟาโลว์วิงส์ร้านรสดีเด็ด ชั้นจะทำยังไงดี ไลน์แมนเข้าถึงรึยัง อยากสั่งมากินที่บ้านทุกวันเลยแงงง มันอร่อยขนาดนั้นจริงๆนะ คือมีความกรอบเด้ง รสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็มทำมาได้ลงตัว เครื่องเทศแน่นๆ หนังไก่กรอบๆ ซอสไม่ได้เยิ้มจนทำให้ไก่หมดรสชาติ มันดี มันดี มันดีย์ย์ย์ (ต้องย้ำหลายๆรอบ 5555) อย่าถามว่าบลูชีสกับผักเครื่องเคียงรสชาติเป็นยังไง คือไม่ได้สนใจเลยจ้า ไก่มันดีงามมากๆอยู่แล้ว เลยลืมสนใจเครื่องเคียงไปเลย ผ่ามพ้าม!!

ใครที่คิดว่าร้านสเต็กจะต้องมีแต่อาหารอิตาเลี่ยน ที่มันเลี่ยนๆ อะอย่าเพิ่งคิดแบบนั้นกับร้านรสดีเด็ด สเต็กเฮ้าส์ นะคะคุณผู้อ่านขา คือที่นี่ก็มีเมนูไทยๆอยู่เหมือนกัน อาหารไทยๆที่ว่านั้นก็คือ ผัดกะเพรา!!! เหมาะมากในการพาเพื่อนต่างชาติมาทาน เพราะนอกจากจะได้ทานเนื้อคุณภาพดี ยังมีเมนูกะเพราไทยๆให้ได้ลองด้วย


STIR-FRIED "WAGYU" BEEF WITH CHILLI, SWEET BASIL & FRIED EGG 550THB
(ผัดกระเพราเนื้อวากิว ไข่ดาว ข้าว ราคาจานละ 550 บาท)




นี่เป็นกระเพราเนื้อที่เราจะไม่สั่งกินเองเด็ดขาด เพราะมันแพง (ฮาาา) แต่เราจะแนะนำให้เพื่อนชาวต่างชาติมาลองทานอันนี้ ส่วนเราสั่งสเต็กเนื้อกับบัฟฟาโลว์วิงส์แทน ผ่ามพ้าม!

ความพรีเมียมของจานนี้คือ "เนื้อวากิว" ละให้มาแบบ 200g คือประมาณสเต็กที่นึงอะ แต่เอามาผัดเป็นกระเพราโปะไข่ดาว พ่อสามีเราชมว่าร้านนี้ทอดไข่ดาวแบบ Sunny Side Up ได้เพอร์เฟคมากๆ คือข้างนอกเกรียมนิดๆ แต่ยังไม่ไหม้ มันจะได้ขอบกรอบๆ แต่ตรงกลางคือสุกกลางๆ ไม่ได้สุกจัดมาก จะได้ texture เนื้อสัมผัสของไข่ดาวยางมะตูมละมุนๆ กะเพรามีโรยกะเพรากรอบมาด้วย ผัดมาได้รสชาติเข้มข้นกำลังดี ไม่เผ็ดมากไป ใครชอบทั้งกะเพราและเนื้อวากิวก็แนะนำให้มาลองจานนี้ แต่โดยส่วนตัวจะเทใจให้สเต็กมากกว่าค่ะ ข้าวไม่ต้อง ขอเนื้อเน้นๆค่ะพี่ขา เอาเนื้อมาอีกค่าาาา!!

"KUROBUTA" PORK CHOPS STEAK 220THB
(สเต็กหมูคุโรบุตะ ราคาจานละ 220 บาท)



ร้านสเต็กนี่มันร้านสเต็กจริงๆนะพี่นะ คือถ้าเราไปกินตามฟู้ดคอร์ท หรือฟาสต์ฟู้ด มันก็จะแบบ ดูออกว่าไม่ใช่วัตถุดิบพรีเมียม ดูเป็นอาหารแช่แข็งเอามาอุ่นแล้วจัดๆจานให้เรากิน แต่ร้านสเต็กเฮ้าส์มันคือการลงมือทำทุกขั้นตอนไง เราได้เห็นผักที่บรรจงกริลล์มาอย่างดี มีความหอมเนยและเครื่องเทศนิดๆ สลัดมันบดที่เป็นแบบโฮมเมดจริงๆ ดูมะเขือเทศนั่นสิ มีบางลูกเกรียมนิดๆด้วยนะ ฮือออ อร่อยน้ำตาไหลลล ทีเด็ดที่สุดคือซอสพริกไทยดำเนี่ยแหละ มันไม่ใช่ซอสสำเร็จรูปแน่ๆ ทางร้านปรุงเองแน่นอน เราสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในการเคี่ยวซอสจนออกมาได้รสดีขนาดนี้ ซอสมีความเค็มกำลังดี หอมเครื่องเทศและได้รสพริกไทยแบบจัดๆ เนื้อสเต็กก็มีการกริลล์จนผิวด้านนอกไหม้นิดๆ มีความหอมๆเกรียมๆหน่อยๆ เนื้อหมักมามีรสชาติอยู่แล้ว แต่ยิ่งทานกับซอสก็ยิ่งฟินนนน


SIRLOIN (DYE-AGE) 380THB / 200G
(เนื้อสันนอกบ่ม ราคา 380 บาท น้ำหนัก 200 กรัม)

มาถึงจานเนื้อแล้วจ้ะพี่จ๋าาาาาา อันนี้คือเนื้อ SIRLOIN หรือเนื้อสันนอก เป็นแบบดรายเอจคือเป็นเนื้อที่ผ่านการบ่มเนื้อมาแล้ว การบ่มเนื้อก็คือการเปลี่ยนสภาพเนื้อให้รสชาติมีมิติมากขึ้น ซึ่งการบ่มแบบ ดรายเอจคือการแขวนเนื้อห้อยไว้ในพื้นที่บ่มเนื้อ มีการควบคุณอุณหภูมิให้ต่ำอยู่ตลอดระยะเวลาการบ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 30 วันขึ้นไป เพื่อให้เอนไซม์ในเนื้อกัดเนื้อจนนิ่มลง ทำให้เนื้อมีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอม และนิ่มขึ้น ก็คล้ายกับการทำชีสหรือบ่มไวน์ โดยกระบวนการเหล่านี้จะต้องมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความสะอาด และอื่นๆ เพื่อควบคุมปฏิกิริยาของเนื้อจากการบ่มให้ได้ตามมาตรฐาน (ขอบคุณข้อมูลเรื่องการบ่มเนื้อจาก openrice มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)


สั่งมาแบบ Medium rare คือตรงกลางจะยังดิบ นุ่ม และได้รสชาติของเนื้อจริงๆ จานนี้เสิร์ฟพร้อมซอส 4 แบบให้เลือกจิ้มกันได้ตามสะดวก มีซอสเห็ด ซอสพริกไทย ซอสไวน์แดง และน้ำจิ้มแจ่ว ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มแจ่ว ได้ฟีลลิ่งทานเสือร้องไห้บ้านๆ แต่สเต็กคือพรีเมียมมากกก แบบกัดแค่เนื้อเปล่าๆก็ได้ถึงรสชาติความเข้มข้น ความหอมของกลิ่นเนื้อ สายเนื้อคือฟินนน แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเนื้อแบบบ่มเท่าไหร่ รู้สึกกลิ่นเนื้อมันคลุ้งรุนแรงเกินรับไหวไปมาก ปกติชอบเนื้อนะ แต่ไม่ได้ชอบดิบๆ ชอบสุกๆ ยิ่งเปื่อยยิ่งดี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ บาร์บีคิวเนื้ออะไรงี้ สเต็กเนื้อนี่กินยากอยู่เพราะถ้าดิบไปก็จะไม่อิน สุกไปก็จะเหนียวเคี้ยวยาก (อ้าว ฮา 555)

แบบมีเดียมแรร์คือแบบเดียวที่กินได้และชอบ ซึ่งจานนี้อยู่ในเลเวล "กินได้" เฉยๆสำหรับเรา แต่ใครที่เป็นคอเนื้อจริงๆ คือกินเป็นอะ ก็น่ามาลองนะ เพราะเนื้อดรายเอจนี่ไม่ได้มีให้กินกันทั่วไปแน่ๆ

SIRLOIN (SUPER) 560THB / 200G.
(เนื้อสันนอก ซุปเปอร์ ราคา 560 บาท ต่อน้ำหนัก 200 กรัม)


นี่คือที่สุดของแจ้ในวันนี้ ความฟินคือเนื้อฉ่ำๆ รสเนื้อที่คุ้นเคย มีความนู่มมมมม นุ่มมากๆ ใครมีผู้ใหญ่ในบ้านที่ชอบกินเนื้อแล้วฟันไม่แข็งแรงขอเชิญทางนี้ค่ะ จานนี้ละมุนและได้รสชาติเนื้อที่คุ้นเคย จริงๆไม่ต้องจิ้มอะไรเลยตัวเนื้อก็กลมกล่อมพอตัวอยู่แล้ว หอมเครื่องเทศ ชอบความเกรียมนิดๆที่ทำมาพอดีๆ อีกอย่างที่เราว่าสเต็กร้านนี้ทำมาดีคือภาชนะที่ใส่ ด้านบนเป็นจานสแตนเลสนำความร้อน และด้านล่างที่ยกมาเสิร์ฟคือเป็นเตาถ่านค่ะ ใส่มาให้พออุ่นสเต็กอยู่ต่อได้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 45 นาที คือดี๊ดี ถ่ายรูปจนเมื่อยแล้วเนื้อยังอุ่นๆอยู่ ไม่เย็นชืดคือดีใจเหมือนถูกหวยอะสำหรับคนรีวิวอาหาร กว่าจะได้มุม กว่าจะถ่ายครบ ส่วนใหญ่อาหารจะเย็นไปก่อนแล้ว แต่อันนี้ยังอุ่นอยู่ ฮูเร่!!!


สเต็กคือเกลี้ยงจริงจัง อย่างอื่นต้องค่อยๆกินกันไป แต่มาจุดนี้ทุกคนเริ่มไม่ไหวละค่า เป็นชั่วโมงแห่งการแบ่งปันกันและกันแล้วค่ะตอนนี้ (ฮาา)


ตัวเล็กบอกว่าหนูยังไหวค่ะแม่!!!


เบียร์วาฬอันนี้คุณพ่อสามีบอกว่าอร่อยสูสีกับเบียร์เยอรมันเลยนะ ใครคอเบียร์ชอบทานเนื้อย่างกับเบียร์ จะสั่งมาทานกับสเต็กก็ไม่ผิดค่ะ ลองดู ที่นี่มียี่ห้ออื่นๆให้เลือกอีกเพียบเลย


ทางร้านเพิ่งเพิ่มเมนูของหวานเข้ามา 2 อย่างคือสัปปะรดในน้ำเสาวรส กับลูกตาลลอยแก้ว หวานเย็นชื่นใจ เมนูนี้ราคาเบาๆถ้วยละ 30 บาทเท่านั้น ใครชอบรสเปรี้ยวๆหน่อยก็ลองสัปปะรดนะ ส่วนใครชอบลูกตาล ทานอันนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน อร่อยแบบเกล็ดน้ำแข็งละเอียดมีลูกตาลแทรกอยู่ในก้อนน้ำแข็ง ได้ฟีลบิงซูลูกตาลอะไรประมาณนั้นเลย

ส่วนน้ำเปล่าน้ำอัดลมเค้าจะมาในแก้วเมสันจาร์ (Mason Jar) เก๋ๆแบบนี้ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ


ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ดีใจด้วยนะคะคุณได้โควต้าอ่านหนังสือเกินค่าเฉลี่ยของคนไทยทั้งประเทศเรียบร้อยแล้ว นี่ไม่ได้มีส่วนลดหรือเว้าเชอร์มาแจก ถือว่าเป็นการมาชี้เป้าร้านเด็ดกับเล่นตลกผ่านตัวหนังสือสร้างความบันเทิงให้ผู้อ่านก็แล้วกันนะคะ


ถ้ามีใครตามไปทาน แวะมาคอมเม้นพูดคุยกันบ้างจะเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนได้มากโขเลยล่ะค่ะ ชอบบทความนี้ฝากกดติดตามผ่านช่องทางอื่นๆด้วยน้า เผื่อเราจะได้พูดคุยกันในเรื่องอื่นๆด้วย ขอบคุณทางร้านรสดีเด็ด The Steak House ที่ให้โอกาสเข้าไปถ่ายทำรีวิวนะคะ แน่นอนว่าเรื่องของรสชาติอาหารเป็นรสนิยมส่วนบุคคล ต่างคนต่างลิ้น ต่างวาระ อาจจะมีความคิดเห็นไม่เหมือนกับในรีวิวก็เป็นได้ อย่าลืมแวะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะ วันนี้ลาไปก่อน บ๊ายบายค่า ^^

Disclaimer: I did not get paid to create this post nor paid for the food and services in this review.

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?