ชี้เป้า 5 ไอเท็มน่าสอย จากแบรนด์ essence คอลเลกชั่น Be Playful With Colour

เมื่อต้นปี มีโอกาสได้ไปร่วมงานกับทางแบรนด์ essence ซึ่งเป็นแบรนด์ drugstore cosmetics สัญชาติยุโรป ในงาน #BePlayfulwithColour ที่ร้าน B.Duck Cafe ตรงสยามเซ็นเตอร์ (ดิจิตอลเกทเวย์เก่า) นอกจากจะได้ทานขนมอร่อยๆแล้ว ยังได้มีโอกาสทำทรีตเมนต์เล็บเก๋ๆ แล้วก็ได้ผลิตภัณฑ์ชุดใหญ่กลับมาอัพเดทที่บ้าน บรรยากาศจะเป็นยังไง ขุ่นแม่เก็บภาพมาฝากค่า

ชี้เป้า 5 ไอเท็มน่าสอยจากแบรนด์ essence
คอลเลกชั่น "Be Playful With Colour"

เริ่มจากภาพรวมของเครื่องสำอางทั้งหมดที่ได้กลับมาก่อนเลย แบรนด์นี้ราคาน่ารักมาก เริ่มต้นที่ 90 บาท ถึง สองร้อยกลางๆเท่านั้น!! ขอบอกว่าถุงหนักมว๊ากก เปิดมานี่นั่งกรี๊ด ไม่รู้จะเริ่มอะไรจากตรงไหนดี ละลานตาไปหมดจริงๆค่า

พูดถึงไอเท็มเด็ดที่ทุกคนชื่นชอบในราคาดี๊ดีหนีไม่พ้นเครื่องสำอางอย่างอายชาโดว์ ที่ขายแบบ single คือเป็นสีเดียวๆ มาในตลับเล็กพกพาง่าย สีติดชัด ติดทนนาน เป็นเจ้าของได้ในราคา 90 บาทเท่านั้น แต่ไฮไลท์ของวันนี้ขุ่นแม่ยกให้คอลเลกชั่นนี้เลยค่ะ

essence "NUDE' Makeup
เมคอัพเพื่องานผิวนู้ดแบบสุขภาพดี

ตรงนี้ขุ่นแม่ได้มาทั้งหมด 4 ชิ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่า

1. essence all about "NUDE" eye shadow ราคา 225 บาท

ความดีงามนอกจากจะราคาดี๊ดี นางมีให้เลือกถึง 8 เฉดสีในตระกูลนู้ดที่จัดได้ตั้งแต่ light โทนไปจนถึง dark โทนกันเลยทีเดียว มีครบทั้งเนื้อแมตต์ ชิมเมอร์ และเมทัลลิก แต่พูดกันตรงๆว่าคุณภาพไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันปาดด้วยนิ้วติด แต่ไม่ค่อยติดลงเปลือกตา แถมเอาพู่กันจิกก็ไม่ค่อยติด ต่อให้ลงแบบหนักหน่วงมันก็สามารถละลายหายไประหว่างวันได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (เศร้า) ตัวนี้เลยยังไม่ recommend นะฮะ แต่ใครที่อยากเอามาลองสีว่าตัวเองเหมาะกับเมคอัพโทนนู้ดมั๊ย ก็เรียกว่าพอได้อยู่ ถ้ามันไม่เวิคจะได้ไม่ต้องไปลงทุนกับเมคอัพแพงๆก่อนจะมารู้ทีหลังว่าสีไม่เหมาะกับตัวเอง อันนั้นสิ เจ็บกว่าเยอะ!!

2. essence camouflage cream concealer ราคา 165 บาท

คอนซีลเลอร์ตัวนี้มี 2 สีในตลับเดียว เหมาะสำหรับพกพา ใช้แก้สถานการณ์เฉพาะหน้า แต่ด้วยความที่เนื้อมันค่อนข้างแห้ง (มาก) เวลาตบต้องระวังไม่งั้นเป็นคราบ+ตกร่องนะจ๊ะ แนะนำวิธีใช้คือวอร์มเนื้อครีมบนมือให้มันเหลวนิดนึงค่อยแต้มลงบนผิว ไม่อย่างนั้นจะเกิดอาการเกาะกันเป็นก้อน ตัวนี้ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่นะ มีสิทธิ์พังได้ แต่ใครโปรแล้วก็ถือว่าราคาน่าลงทุนค่ะ

3. essence sheer & shine lipstick ราคา 125 บาท

สีเบามาก พอเป็นสีนู้ดนี่พี่นึกว่าลิปมัน!! เหมาะใช้เป็นเบสก่อนลงลิปแมตต์หรือลิปด้านอื่นๆ ไม่เหมาะทาเดี่ยวๆอย่างแรงเพราะทำให้ปากซีดลง มันไม่นู้ดสวยอะ มันนู้ดป่วย ใครสนใจลิปสติก sheer & shine ของ essence แนะนำสีเข้มๆจะเวิคมากค่ะ แท่งเดียวใช้ได้ทั้งปากและแก้ม เอามาตบๆแทนบลัชออนถือว่าโอเค แต่สีนู้ดไม่แนะนำอย่างแรง!

4. essence pure nude make up ราคา 250 บาท

ตัวนี้เด็ดจริง ถือเป็นไอเท็มแรกที่อยากแนะนำรัวๆในคอลเลกชั่นนี้ เป็นรองพื้นสำหรับสาวผิวดี ที่ไม่ต้องการปกปิดมาก แต่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูสว่างใส ไม่เมือก ไม่มัน ค่อนไปทางแมตต์แต่ไม่แตก ไม่ crack ตกร่อง

สวอทให้ดูเทียบกับรุ่นปกปิด (ราคาเท่ากัน) ในสีเดียวกันตัว pure nude จะสีอ่อนกว่านิดนึง และให้การปกปิดที่บางกว่า เนื้อเหลวกว่า เกลี่ยง่ายค่ะ สรุปคือเทใจให้รุ่น pure nude รัวๆเมื่อเทียบกับตัว Stay-All Day ทั้งนี้สภาพผิวเราไม่ได้มีแผลจากสิว เป็นคนผิวผสมค่อนไปทางแห้ง เลยชอบตัวนี้ แนะนำสำหรับการเลือกรองพื้นต้องไปลองเทสสีเองที่เค้าเตอร์น้า การดูรีวิวไม่ได้ช่วยให้เลือกรองพื้นออนไลน์ได้นะเออ

เดี๋ยวจะหาว่ารีวิวไม่มีมูล (ฮา) เลยเอาสีของลิปสติก essence รุ่น sheer & shine lipstick ราคาแท่งละ 125 บาท มาวางเทียบให้ดู แล้วจะรู้เลยว่าทำไมไม่แนะนำสีนู้ด (ฮา) แต่ถ้าจะให้แนะนำอีกรุ่นนึง ต้องลอง essence รุ่น liquid lipstick ที่เป็นลิปสติกจิ้มจุ่มเนื้อลิขวิด ที่ไม่ได้แมตต์แบบฮิตๆกันทุกวันนี้ แต่ให้ความกึ่งกลอส+กึ่งลิปสติก ให้สีชัดแน่น กลบสีปากมิดและมีความวาว ตกราคาแท่งละ 165 บาท

เรียกว่าลิปติกเป็นไอเท็มที่แนะนำให้สอยมาลองสักแท่งเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับเลยค่า

สีที่มีแล้วใครทาก็สวยแนะนำ 06 กับ 09 เลยฮะ เป็นสีเข้มก็จริงแต่ทาออกมาดูสุภาพ ดู Everyday Look ไม่เยอะจนเกินไปแล้วก็ไม่จืดจนแกงจืดเรียกพี่อีกด้วยน้า

ไอเท็มที่ 4 ขอแนะนำสำหรับมาสคาร่า on budget ที่เริ่ดที่สุดใน season นี้ พี่ยกให้นางเลยค่ะ

essence I like long lashes! volume & length mascara

ราคาแท่งละ 165 บาทเท่าน้านน!! มันดีงาม ปัดแล้วเรียงตัวสวยฟรุ้งฟริ้ง จากเดิมพื้นขนตาสั้น กลายเป็นหนายาวพุ่งแบบที่เห็นในรูปเลยค่ะ ใช้ในชีวิตประจำวันทำงานออฟฟิศไม่มี fall out ไม่แพนด้า ล้างออกง่ายด้วยรีมูฟเวอร์ เออชั้นยอมว่ะเธ๊อ ราคาเท่านี้ควรหามาลอง ว่ากันว่าผู้หญิงควรมีมาสคาร่า 4 แท่งไว้ปัดเพื่อความสะพรึง!! ยังไงลองพิจารณาตัวนี้กันดูน้า

ไอเท็มที่ 5 ยกให้ซีรีส์ยาทาเล็บเจลเลยค่ะ จริงๆแล้ว essence มีผลิตภัณฑ์สำหรับทำเล็บหลากหลายรูปแบบในราคาเบาๆเยอะแยะไปหมด หลังจากลองทุกอัน ในคอลเลกชั่นนี้พี่ยกให้เล็บเจลมาวิน!

โดยจริงๆแล้วสิ่งที่เราต้องการสำหรับการทาเล็บเจล (แบบไม่ง้อเครื่องอบเล็บ) มีแค่ 3 ชิ้นเท่านั้นค่ะ
1. essence the gel nail polish base coat ราคา 155 บาท
2. essence the gel nail polish สีที่ชอบ ราคา 90 บาท (จะเพิ่มเลเยอร์กากเพชรก็ทำได้นะ)
3. essence the gel nail polish top coat ราคา 155 บาท

สิ่งที่ได้ละม้ายคล้ายความเล็บเจลคือ
1. ความเงา
2. ความหนา ลื่น เวลาลูบเล็บ
3. ความทน ไม่หลุดง่าย

แตกต่างตรงที่มันถูกกว่า ล้างออกง่ายกว่าโดยไม่ทำให้ผิวเล็บบางลงแบบเล็บเจลตามร้าน ถือว่าเป็นไอเท็มที่ ปังมากๆ สำหรับคอลเลกชั่นนี้ ถ้าใครมีโอกาสอยากให้ไปหามาลองดูค่ะ ซีรีส์ธรรมดาเราก็ชอบนะ แต่พอมาเจอเล็บเจลนี่ติดใจในความเงาวิ้งวับของนาง อย่าให้ได้ไปเจอเค้าเตอร์นางเชียว เดี๋ยวจะเผลอสอยมาอีกรัวๆ (ฮา) ส่วนใหญ่เราจะเจอแผงแบรนด์ essence ตามวิลล่ามาร์เก็ตค่ะ ถ้าใครสนใจไอเท็มไหนแล้วไม่แน่ใจว่าใกล้บ้านมีขายมั๊ย แนะนำให้อินบ็อกไปทาง Official Fanpage ถามแอดมิน essence (Thailand) ได้เลย

 สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางแบรนด์ที่เชิญไปร่วมงานนะคะ รีวิวนี้ไม่ได้รับบัดเจ็ทในการเขียน ทั้งหมดในบทความนี้คือประสบการณ์จริงส่วนตัวของเราเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปตามสภาพของแต่ละบุคคล แนะนำให้ไปลองปาดดูเองตามเค้าเตอร์จะชัวร์ที่สุดค่ะ

หวังว่าบล็อกนี้จะมีประโยชน์กับสาวๆน้า
ใครสนใจเครื่องสำอางแบบ on budget แบรนด์นี้เป็นอีกแบรนด์ที่แนะนำค่ะ ^^

Disclaimer: I did not purchased the products but all opinion here is my own.