โอโตยะ ถือเป็นเจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่สไตล์โฮมเมด Japanese Homemade Cooking Style ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทยและ ชาวญี่ปุ่นมากว่า 55 ปี โดยเริ่มเปิดร้านแรกในปี ค.ศ. 1958 โดย มร.Eiichi Mitsumori ในชื่อ “OOTOYA Shokudo” ที่ย่าน Ikebukuro, Tokyo
โดย โอโตยะมีความหมายในภาษาญี่ปุ่นว่า “ประตูใหญ่” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นประตูบานใหญ่ที่ต้อนรับลูกค้าทุกท่าน โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 300 สาขาในประเทศญี่ปุ่น และสำหรับสาขาในต่างประเทศ ได้เริ่มต้นจากประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 47 สาขาทั่วประเทศและโอโตยะยังคงตอบรับความต้องการของลูกค้า โดยพัฒนาเพิ่มบริการส่งอาหารถึงบ้าน ผ่าน “OOTOYA Delivery 02-66-33-888” อีกด้วย
หนึ่งในเอกลักษณ์ ที่สำคัญของโอโตยะที่แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ คือ เทโชกุ หรือศาสตร์ในการรับประทานอาหารแบบฉบับ ของคนญี่ปุ่น โดยจะจัดอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการและคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุด ซึ่งโอโตยะได้นำหลักการนี้มาใช้ โดยการจัดอาหารเป็นเซ็ต ซึ่งประกอบด้วยอาหารจานหลัก อาหารเคียง ข้าว และซุป เพื่อให้ลูกค้าได้รับคุณประโยชน์สูงสุด เพื่อสุขภาพที่ดี และอายุที่ยืนยาว ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ของโอโตยะที่เสิร์ฟลูกค้าตลอดมา
และในวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา บริษัท ซีอาร์ จี อินเตอร์เนชั่นแนลฟู้ดส์ จำกัด (CRGI) ฉลองจัดทริปญี่ปุ่นพร้อมเปิด "แกรนด์ เมนู" จัดเต็มชุดอาหารสุขภาพ ตอบโจทย์กระแสสุขภาพ ทั้งคุณภาพและราคา - CRG PR
ที่หน้าร้านจะมีการประชาสัมพันธ์แคมเปญ "อิ่ม-หมี-ฟรี-มันส์" ลุ้นแพคเกจทัวร์ฮอกไกโด รางวัลละ 2 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 90,000 บาท โดยจัดเฉพาะ 17 สาขา ในศูนย์การค้า CPN ดังนี้:
1. Central World 2. Central Ladpraow 3. Central Chaengwattana 4. Central Pinklao 5. Central Rama 3 6. Central Bangna 7. Central Rattanathibet 8. Central Rama 9 9. Central Khonkaen 10. Central Chonburi 11. Central Festival Chiangmai 12. Central Festival Hatyai 13. Central Samui 14. Central Udonthani 15. Central Plaza Salaya 16. Central Rayong 17. Central Westgate
ซึ่งสาขาเหล่านี้เป็นสาขาแรกๆ ที่ทดลองวางขาย "New Highlight Menu" กับ 4 ชุดอาหาร 4 รายการของหวาน ให้แฟนๆชาวโอโตยะได้ลองก่อนใคร
วันที่ได้ไปชิมกับครอบครัวจัดไปทั้งหมด 3 เมนู กับ 2 รายการของหวานดังนี้เลย
1. ปลากะพงแดง(โอกิเมได) หมักซอสโชยุโคจิย่างถ่าน
(Charcoal Grilled Okimedai with Shoyukoji Sauce)
จานเดี่ยว 339THB / เซท 399THB
จานนี้คือ ปลากะพงแดง (โอกิเมได) ซึ่งนำเข้าจาก ประเทศญี่ปุ่น โดยคัดปลาพิเศษเนื้อแน่นนุ่ม มีกรดไขมันโอเมก้า – 3 สูง หมักด้วยซอสโชยุโคจิ เป็นซอสถั่วเหลืองหมักพิเศษ ที่มีความหอมและรสชาติเข้มข้น ซึ่งจะช่วยดึงให้รสชาติของอาหารทะเลโดดเด่น ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นำมาย่างบนถ่านไม้ และเป็นธรรมเนียมที่จะมีการเสิร์ฟหัวไช้เท้าขูดคู่กับปลาย่าง โดยจะขูดสดก่อนเสิร์ฟเท่านั้นเพื่อความสดใหม่
ความคิดเห็นของขุ่นแม่:
นี่มันปลาซาบะย่าง... (ฮา) รสชาติประมาณนั้นเลยค่ะแต่ละมุนกว่า ส่วนตัวไม่ชอบหัวไชเท้าขูดสด คือกินไม่เป็น ลองชิมละแสบลิ้น ตกใจ พี่นึกว่าวาซาบิ! ส่วนเครื่องเคียงอย่างอื่นอร่อยหมดเลย หวานๆเค็มๆ จานนี้ถ้าสั่งเดี่ยวๆก็เหมาะกับสาวๆที่กำลังไดเอทนะ เพราะปลาไม่ได้ผ่านการทอดด้วยน้ำมัน เป็นการย่างบนเตาถ่าน ไข่ตุ๋นในเซทเราชอบนะ มันนุ่มเหมือนคัสตาร์ดเลย
ความเห็นของขุ่นสามี:
รู้สึกปลามาไกลเกิน มันไม่สดเหมือนซื้อกินในตลาดสะพานปลา (ก็แหงล่ะ...) ไข่ตุ๋นใส่น้ำมันงาเยอะเกินไป จานนี้เฉยๆนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษขุ่นลูก:
กินเนื้อปลาและไข่ตุ๋นได้เพลินๆ แต่ถ้าให้กินอย่างใดอย่างนึงเกิน 2 คำจะปฏิเสธ ไม่กินต่อ ไม่กินเครื่องเคียงที่เป็นผัก
2.ไก่ย่างถ่านซอสเบซิล
(Charcoal Grilled Chicken Salad with Basil Sauce)
จานเดี่ยว 229THB / เซท 289THB
โอโตยะนำเอาอาหารที่ให้ความสมดุลทางโภชนาการ โดยใช้ไก่ S-Pure เนื้อนุ่มมาย่างถ่านจนหอมกรุ่น รับประทานคู่
กับน้ำสลัดสูตรเฉพาะของโอโตยะ รสเปรี้ยวหวานพอดี เคล้าผักสดกรอบเต็ม
คุณค่าหลากชนิดที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งมะเขือเทศ เห็ดเออรินจิ คินพิระ โกโบ
บรอกโคลี ผักกาดแก้ว มิซูน่า ฟักทอง และกะหล่ำปลีหั่นฝอย
สำหรับซอสผักมีส่วนประกอบที่ทำจากแครอท
กระเทียม หัวหอมใหญ่ และผักอื่น ๆ ให้รสชาติที่เข้มข้นทั้งหวานและเปรี้ยว
ทานพร้อมสลัดผักได้อย่างเอร็ดอร่อยความคิดเห็นของขุ่นแม่:
ส่วนตัวนี่ชอบกินไก่ย่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บอกเลยว่าจานนี้คือเด็ดมาก ต้องโดนซ้ำ ราคาก็กำลังดี กินเดี่ยวๆก็อร่อย ใส่น้ำสลัดก็อร่อย ตัวไก่คือย่างมาจนกรอบ ไม่เยิ้ม ไม่มัน หนังไม่เหนียวเหมือนไก่ย่างทั่วๆไป เป็นหนังแบบย่างจนกรอบนึกออกชิมิ (ฮา) ผักคือสด ลวกสุกพอดี ฟักทองย่าง หวาน ดีงาม จานนี้เป็นจานเดียวที่เราหาที่ติกันไม่เจอ ขอแนะนำรัวๆค่ะ!!
ความเห็นของขุ่นสามี:
ชอบจานนี้ที่สุดแล้วในบรรทา 3 จานที่ชิมมาขุ่นลูก:
กินฟักทองย่าง กินไก่ กินข้าวและไข่ตุ๋นสลับไป สลับมา สลับมา สลับไป...
3. หมูหมักซอสโชยุโคจิย่างถ่าน
(Charcoal Grilled Pork with Shoyukoji Sauce)
จานเดี่ยว 229THB / เซท 289THB
เนื้อหมู S-Pure หมักซอสโชยุโคจิ มีส่วนผสมของโคจิที่ใช้หมักถั่วเหลืองเพื่อทำซีอิ๊ว ค่อยๆ ย่างให้สุกบนเตาถ่านร้อนๆ จนหอมกรุ่นราดซอสผักสุขภาพจากปวยเล้ง (Horenso) ผสมเทอร์นิป (Kabu) อุดมด้วยวิตามินและใยอาหาร รสหวานธรรมชาติจากผัก โดยอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญของเมนูนี้คือ ซอสผักโขมและเทอร์นิปผสมกันจนเป็นซอส เพียวเร เข้มข้นราวกับซุป โอโตยะเลือกใช้ถ่านไม้ในการย่าง ผิวด้านนอกต้องกรอบและความหวานของเนื้อยังคงอยู่ภายใน ช่วยทำให้อาหารเกิดกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ ซึ่งมีแต่ถ่านไม้เท่านั้น ที่สามารถทำได้
ความคิดเห็นของขุ่นแม่:
นี่มันเสต๊กหมูกะทะร้อนแบบเสริฟใส่จานนี่นา...(ฮาาา) เนื้อหมูอร่อยดี แต่ก็ไม่ได้อร่อยแบบเว่อร์วังอลังการ บางชิ้นแอบมีติดมันมานิดหน่อย จะว่าอร่อยก็อร่อยจะว่าเลี่ยนก็เลี่ยนอะ ซอสเขียวๆไม่เหม็นเขียวอย่างที่คิดนะ รู้สึกจืดๆด้วยซ้ำ เครื่องเคียงจานนี้อร่อย กินได้เกลี้ยงจานจริงๆไม่เหลือแม้แต่ผักประดับจาน จานนี้ดูหนักท้องสุดในบรรดาทุกจาน รู้สึกไม่ค่อยเหมาะกับคนลดน้ำหนักเท่าไหร่นะ (ตรงที่ชิ้นหมูแอบมีส่วนติดมันด้วยแหละ) แต่ถ้าอยากเอาอิ่มเป็นหลัก จานนี้ก็เป็นอีกจานที่แนะนำค่ะ
ความเห็นของขุ่นสามี:
...เฉยๆ ก็ดีนะขุ่นลูก:
กินเนื้อหมูไป 2-3 คำ สลับกับมันฝรั่งนิดหน่อย จังหวะนี้ขุ่นลูกเน้นข้าวเป็นหลักค่ะ (ฮา)
สรุปจากอาหารจานหลักทั้งหมดที่ชิมมา แนะนำให้ลองตัว "ไก่ย่างถ่านซอสเบซิล" ค่ะ
ต่อกันที่ของหวานได้ลองทั้งหมด 2 เมนูดังนี้
1. ไอศกรีมชาเขียวในน้ำเต้าหู้
เมนูนี้ไม่ได้ให้ลูกทานชาเขียวนะ สั่งมาเพราะอินเนอร์ของพ่อแม่ล้วนๆ(ฮา)
เป็นคนชอบทานไอศกรีมชาเขียวมากกกก แล้วของโอโตยะถือว่าผ่านมาตรฐานเราสุดๆ
ตัวคุณสามีชอบวุ้นชาเขียวสุดๆ นางบอกว่ามันเหมือน "ขนมเปียกปูนรสชาเขียว" อืม... เราก็ว่าเหมือน...
2. เลม่อนพาเฟ่ต์
เป็นไอศกรีมพาร์เฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมซาบายอนครีม ผิวเลมอนเชื่อม ชีสเค้ก เยลลีเลมอน และ
บลูเบอร์รี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม มีให้เลือก 2 รสชาติ ทั้ งรสชาเขียวญี่ปุ่น และ วานิลลา เราเลือกชิมรสวานิลลาเพื่อที่ขุ่นลูกจะได้ทานด้วยได้ค่ะ สำหรับซาบายอนครีม จะเป็นคัสตาร์ดเนื้อนุ่ม ที่มีสูตรต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มีส่วนผสม
ของไข่ขาว น้ำตาล และไวน์รสหวานหอม เราชอบผิวเลมอนเชื่อมที่ช่วยตัดให้ขนมหวานไม่เลี่ยน แต่ตัวบลูเบอร์รี่ไม่ใช่บลูเบอร์รี่สด อันนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่อย่างอื่นผ่านอยู่นะ ชีสเค้กแน่น ไอศกรีมอร่อย ซาบายอนครีมออกคล้ายๆครีมคัสตาร์ด ชั้นล่างสุดถึงจะเจอเยลลีเลมอน ใครอยากลองแนะนำรสวานิลลาเลยนะ มั่นใจว่าชาเขียวไม่น่าเข้ากับรสเปรี้ยวของพวกเลมอนและบลูเบอร์รี่สักเท่าไหร่
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางโอโตยะที่ให้เกียรติครอบครัวของเราไปร่วมชิมเมนูใหม่ในครั้งนี้ด้วยนะคะ บทความนี้เขียนขึ้นจากประสบการ์ณส่วนตัว อ้างอิงข้อมูลอาหารจากที่ทางแบรนด์ให้มา หากเพื่อนๆสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกอินบ็อกสอบถามได้ที่แฟนเพจของโอโตยะเลยค่ะ
หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้า ฝากติดตามด้วยค่า ^^
Disclaimer: I did not paid for this service but all opinion is 100% my own
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
อ่านจบแล้วอยากฝากคอมเม้นอะไรบ้าง?