รีวิวหนัง Despicable Me 2 || Movie Review

Bababa Babanana บาบาบา บาบานานา (บาน๊าน๊าอาอ่าาาา)

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎา 2556

เมื่องานเลิกเวลาหกโมงเย็น หนังมีรอบเริ่มหนึ่งทุ่ม ประชากรหนาแน่นทั้งรถไฟฟ้ามหานครเหมือนตอนวันลอยกระทง(ห๊ะ?) คุณแฟนโทรมาเร่งเร้า บอกเลยว่าไปไม่ทัน เลยเลื่อนเป็นรอบสามทุ่ม... โอคุณพระ นี่ชั้นอยากดูมันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ถ้าไม่ใช่วันศุกร์นี่บอกเลยไม่ได้ดูแน่ๆ เมื่อวานหนังเข้าวันแรกยังต้องถอดใจ เพราะรู้ว่าถ้าดูหนังรอบดึกติดวันทำงาน อิชั้นได้ลาตายวันต่อไปชัวร์ๆ

เอ่าเฮ้ย รีวิวหนังสิเฮ้ย มัวมาเวิ่นเว่ออยู่นั่นแหละ =_=

กราบ.

คือตัวอิชั้นชอบทะเลาะกับตัวเองบ่อยๆน่ะ ขอคุณผู้อ่านโปรดทำความเข้าใจ

ตึงตึงตึ๊ง...

เอ่อ... โปสเตอร์จะใหญ่ไปไหน

เอ่อ... อีมิเนี่ยนตัวเหลืองนี่สรุปเป็นพระเอกใช่ไหม??

เอ่อ...

เอ่ออออ...

(หลังจากนั้นพอเข้าโรงแล้ว...)

อืม... คุณผู้โชมคร๊ะ(ทำเสียงแบบพุดเดิ้ล)

อิชั้นว่า หนังเรื่องเนี้ย มันการตลาดชัดๆเลยนะคะ มันทำมาเพื่อ"ขาย"น้องๆตัวเหลืองนี่ชัดๆเลยค่ะ

เรื่องย่อของหนังว่าด้วยครอบครัวตัวเอก(กรู)

ที่ต่อจากภาค1ยังคงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแบบ "ตลอดกาล" เหมือนในนิทาน

แต่อนิจา จริงๆแล้วเรื่องมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เมื่อหนูน้อย แอกเนส(คนเล็กสุดของบ้าน)

เกิดอาการอยากมี "แม่" ขึ้นมานิดๆ ย้ำว่า "นิดๆ" แต่หนังพยายามแทรกอารมณ์นี้ตลอดทั้งเรื่อง

สอดคล้องกับปมเรื่องผู้หญิงของ "กรู" ที่มีอาการขยาดผู้หญิงมาตั้งแต่สมัยอนุบาล

สาเหตุก็เอ่อ... ต้องดูเองน่ะนะ แล้วจะรู้เลยว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาเพื่อให้ "เด็ก" ดูจริงๆ

(แถมยังหวังขายของพรีเมี่ยมจากหนังให้เด็กและแฟนบอยของอิเหล่ามิเนี่ยนตัวเหลือง ปาป้อยยย)

แต่!!!

ที่หนังพรีเซนต์ออกมาน่ะ ไอเรื่องที่ว่าเมื่ออดีตวายร้ายจะต้องช่วยโลกน่ะ

มันพล็อตรองชัดๆเลยนี่หว่าเว้ยเฮ้ย!!!!!

...ไว้อาลัยให้กับคนที่โดนเทรลเล่อร์อำ 3 วิฯ(รวมตัวเองด้วยอีก1)...

คือโดยธรรมชาติน่ะ สิ่งที่ขับเคลื่อนหนังเดินไปข้างหน้าคือภารกิจที่กรูต้องช่วยตามหาวายร้าย

แต่ระหว่างนั้นหนังมันโคตรจะแฟมิลี่เลยค่ะคุณผู้ชม

หนักไปในทางหนังวันพ่อ ผสมหนังวันแม่ ผนวกกับหนังวันเด็ก

ดรีมเวิร์คส์สตูดิโอฟันยับค่ะ

พนันได้ว่ารายได้ขายของพรีเมี่ยมแม่งเยอะกว่าตั๋วบอกส์ออฟฟิศอีกคอยดู

//ว่าแล้วก็ต่อแถวรอซื้อชุดแฮปปี้มีลจากแมคโดนัล...

หนังเรื่องนี้มีอิทธิพลของตัวเหลืองเยอะจนถึงขนาดทำเอาเราอยากศึกษาภาษาของมันอะ

ถ้าคุยกับมันรู้เรื่องคงเท่น่าดู อิอิ

เนื้อเรื่องดูเพลินมากค่ะ ดูแต่ตัวเหลืองอะบอกเลย

ถึงเนื้อเรื่องของครอบครัวตัวเอกจะน่าสนใจ แต่ในซีนถ้าไม่มีตัวเหลืองหนังจะน่าดูน้อยลงเกินครึ่ง!

อิชั้นคิดว่าถ้ามีลูกน้องแบบนี้คงปวดหัวตาย

แต่เข้าใจนะว่าทำไมกรูถึงเก็บมันเอาไว้

มันโคตรจะน่ารักเลยอ้ะ!!!!

หนังเรื่องนี้: ดูแล้วไม่เสียดายตัง (แถมพร้อมจะเสียตังซื้อของพรีเมียมต่อ)

สรุปให้ว่า Despicable Me 2

เป็นหนังกลมกล่อมที่ยัดเยียดได้อย่างพอเหมาะ

ไม่ยัดเยียดความเป็นแฟมิลี่จ๋า(ถึงมันจะจ๋ามาก)

มันมีความตลกนำ ผสมรอมคอม(โรแมนติก-คอเมดี้) แฟมิลี่แต่ไม่เลี่ยน

ดูได้อีก10ปีก็ไม่เบื่อ(เฮ้ยขนาดนั้นเลยจริงๆนะ)

อนึ่งความคิดเห็นอันนี้เป็นความคิดส่วนตัว

หนังแอนิเมชั่นน่ะคุณผู้โช้มมม

ออกจะผิดคาดด้วยซ้ำที่ใส่สาระเข้าไปได้เยอะขนาดนี้

ดูจบแล้วรู้สึกรักครอบครัวอย่างบอกไม่ถูก